EPOXY Bauer-308ชนิด A+B 2 ส่วนผสมกันใช้ทาพื้นผิวต่างๆทั้งโลหะและคอนกรีต เพื่อป้องการกัดกร่อนจากสนิมความชื้นน้ำเค็มทนเคมีต่างๆได้ดีและสามารถใช้ทาบ่อน้ำดื่มได้

EPOXY Bauer-308ชนิด A+B 2 ส่วนผสมกันใช้ทาพื้นผิวต่างๆทั้งโลหะและคอนกรีต
เพื่อป้องการกัดกร่อนจากสนิมความชื้นน้ำเค็มทนเคมีต่างๆได้ดีและสามารถใช้ทาบ่อน้ำดื่มได้

Bauer Evercote (308)

คุณสมบัติ: เป็นอีป๊อกซี่ชนิดสองส่วนผสมกัน (A และ B)มีเนื้อสี 100 %ไม่มีส่วนผสมของสารระเหย
(Epoxy 100 % Solid and Solventless) ใช้สำหรับทาพื้นผิวต่าง ๆ ทั้งโลหะและคอนกรีต
เพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากสนิม ความชื้น น้ำเค็ม และทนสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี และทาบ่อน้ำดื่มได้
อัตราส่วนผสม : โดยปริมาตร A : B = 3 : 1 และ โดยน้ำหนัก A : B = 4 : 1
(ส่วน A = Resin เป็นส่วนที่มีสี และส่วน B = Hardener เป็นส่วนใส)

วิธีการผสมสาร:
1. กวนส่วน A ให้สารที่นอนก้นกระจายตัวให้ทั่ว
2. แบ่งชั่งหรือตวงส่วน A และ B ออกมาในภาชนะต่างหากโดยแยกส่วนละภาชนะ ตามปริมาณที่ต้องการใช้
3. เทส่วน A และ B ลงในภาชนะอีกใบหนึ่งสำหรับผสม และกวนให้ทั่วจนเข้ากันดี
4. ใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทาสารลงพื้นผิวที่เตรียมแล้ว
5. สารที่ผสมแล้วแต่ละครั้งควรใช้ให้หมดภายใน 10 นาที (ไม่ควรเกิน 15 นาที)
6. ล้างแปรงหรือลูกกลิ้ง และภาชนะด้วยทินเนอร์
*ถ้าสารที่ผสมแล้วหนืดเกินไปให้เติมทินเนอร์ได้ โดยเติมหลังจากผสม A และ B จนเข้ากันดีแล้ว(เติมไม่เกิน 10%)

คุณลักษณะของ: BAUER-308 EVERCOTE
1. EVERCOTE เป็น SOLID 100% ปราศจากสารทำละลายอื่นใดเจือปนหรือผสม จึงมีลักษณะเด่นดังนี้
1.1 ไม่ก่อให้เกิดการทำลายสภาวะแวดล้อมและธรรมชาติ
1.2 ไม่ช่วยให้ไฟติด จึงมีความปลอดภัยสูงในระหว่างการทำงาน
1.3 โอกาสที่จะเกิดฟองอากาศ และ PIN HOLE จะน้อยกว่าสีที่ผสมสารทำละลาย
1.4 ความหนาของ FILM ที่เคลือบในขณะยังเปียกเมื่อแห้งตัวแล้วจะยังคงความหนาเท่าเดิม
ไม่ยุบตัวหรือสูญเสียความหนา จึงสามารถกำหนดความหนาของการเคลือบได้ตลอดเวลา
2. EVERCOTE เป็น HYDROPHILIC EPOXY ซึ่งจะมีการแยกอะตอมของ H2 ออกจากโมเลกุลของ H2O
ในระหว่างการแห้งตัว จึงไม่ต้องกังวลถึงความชื้นสัมพัทธ์ของสภาวะอากาศ และ อุณหภูมิ
ของจุดที่อากาศกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ซึ่งสี EPOXY ทั่วๆ ไปจะต้องคำนึงถึงข้อนี้เป็นอย่างมาก
ดังนั้นการเคลือบ EVERCOTE บนผิวงานที่ชื้นหรือเปียกจึงสามารถกระทำได้ตลอดเวลาแม้แต่การเคลือบผิวงานใต้น้ำ
ในอุณหภูมิ 0 ํC ก็สามารถทำได้
3. EVERCOTE เมื่อแห้งตัวแล้วจะมีความเงางาม และมีแม่สีที่มีความเข้มข้นต่อต้านรังสีอุลตร้าไว-
โอเล็ต ดังนั้นตลอดอายุของ EVERCOTE ความเข้มของเฉดสีจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือ เปลี่ยน
สภาพผิวหน้าเป็นฝุ่น และยังช่วยให้อุณหภูมิของเหล็กต่ำกว่าการเคลือบด้วยสีทั่วๆ ไป
( INSULATION COAT )
4. EVERCOTE สามารถทนต่อสารเคมีกัดกร่อนได้ ดังนั้นสภาวะแวดล้อมที่อยู่เหนือหรือในน้ำทะเล
หรือ น้ำเกลือ จึงไม่ทำให้ EVERCOTE เปลี่ยนแปลง หรือ เสื่อมสภาพไป
5. EVERCOTE ฝุ่นและละอองผงไม่เกาะบนผิวหน้า และถึงมีฝุ่นละอองบนผิวหน้า ก็สามารถ
ขจัดออกง่ายกว่าสีทั่วๆ ไป
6. EVERCOTE สามารถเคลือบได้บนผิวโลหะ ,อโลหะ ,คอนกรีต
7. EVERCOTE ไม่ดูดซึมน้ำหรือของเหลวอื่นใด
8. EVERCOTE ผ่านการตรวจสอบจาก WORLD HEALTH ORGANISATION (WHO)
ในหัวข้อที่ 3 ในหมวด INTERNATIONAL STANDARD FOR DRINKING WATER ตาม มารตราฐานข้อที่ 245:1981
9. EVERCOTE สามารถป้องกันการเกิดเชื้อรา ต่างๆ (ANTI MICROBIOLOGICALGROWTH)
10.EVERCOTE สามารถป้องกันการรั่วซึมได้ดีเยี่ยม ทั้งโลหะ และ คอนกรีต
MIXING Hardener Resin Compound
By volume 1 : 3
By weight 1 : 4

ขั้นตอนการทำงาน:
1. การเตรียมพื้นผิว:
1.1. ทำความสะอาดพื้นผิว ให้ปราศจากคราบไขมันและสิ่งสกปรก
1.2 ผิวโลหะ : ขจัดสนิมแผ่นหรือสีเก่าที่กำลังจะหลุดร่อนออก
ผิวคอนกรีต : สกัดคอนกรีตเก่าที่เสื่อมสภาพหรือสีเก่าที่กำลังหลุดร่อนออก
1.3. เตรียมผิวให้มีความหยาบโดยใช้เครื่องขัด เครื่องขัดเจียรหรือกระดาษทราย แล้วแต่ความเหมาะสม
1.4. ทำความสะอาดและกำจัดฝุ่นออกให้หมด

2. การทาสาร:
ทาทับหน้าด้วย Bauer Evercote (308) จำนวน 2-3 ชั้น ตามความเหมาะสม โดยใช้แปรงหรือลูกกลิ้ง
การทาแต่ละชั้นควรรอให้ชั้นแรกแห้งสัมผัสได้ ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
*Bauer Evercote (308) เป็นสารรองพื้นในตัว ใช้ทาพื้นผิวโลหะและคอนกรีตได้โดยตรง
* กรณีพื้นผิวโลหะซึ่งเตรียมผิวไม่ได้มาตรฐาน แนะนำให้ทาชั้นรองพื้น 1 ชั้น ด้วย Bauer Primer(307)
แล้วค่อยทับหน้าด้วยBauer Evercote (308)

หมายเหตุ:
1. ควรแบ่งผสมต่อครั้งในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้สารที่ผสมแล้วถูกใช้ให้หมด ก่อนที่สารจะแห้งหรือแข็งตัว
2. สารที่ผสมแล้วควรเทลงในภาชนะที่แผ่กว้าง จะช่วยให้สารแห้งหรือแข็งตัวช้ากว่าในภาชนะทรงแคบสูง
ทำให้มีเวลาในการทาสารได้นานขึ้น หากใช้สารไม่หมดห้ามปิดฝาเด็ดขาดเพราะจะเกิดความร้อนและแรงดันสูง
อาจทำให้ระเบิดได้
3. สาร 1 kg ทาได้พื้นที่ 6-8 ตารางเมตร ต่อการทา 1 ชั้น (ที่ความหนาประมาณ 150 micron )
หมายเหตุ:
การผสมสารหากหนืดเกินไป แนะนำให้เติมทินเนอร์ได้ 10% เพื่อลดความหนืด

สนใจสินค้าสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ/ รับปรึกษา-ให้บริการพร้อมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
เรามีทีมช่างที่ชำนาญงานโดยเฉพาะบริการให้แก่ลูกค้าทั้งไปดูหน้างานและทำงานให้
สินค้าทุกตัวมีใบรับรอง MSDS /บริษัทเซอร์เฟซโพร-เทค จำกัด
กรุณาติดต่อที่/การะเกด(เกด) 081-9218788/ 086-3742729
http://karaked.plazathai.com