เส้นทางสายแพรไหม (ไฮไลท์) เดินทาง 17 – 26 JUN // 22 – 31 JUL // 5 – 14 AUG 11 // 2 – 11 SEP 11

วันแรก สุวรรณภูมิ-กวางเจา
06.00น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 (เกาะ U 9-10) สายการบินไชน่าเซาท์เธิร์นแอร์ไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความสะดวก (จอดรถส่งผู้โดยสารได้ที่ประตู 9-10)
08.40น. โดยเที่ยวบินที่ CZ 362 เหิรฟ้าสู่กวางเจา เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง เมื่อ 214 ปี ก่อนคริสตกาล จิ๋นซีฮ่องเต้เคยนำทัพมา พักตั้งค่ายที่ปากแม่น้ำจูเจียง กวางเจาได้ก่อกำเนิดเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างชาติในสมัยราชวงศ์ถัง เช่น โปรตุเกส อังกฤษ และชาวยุโรปอีกหลายประเทศ จนกลายเป็นเมืองท่าที่ผูกขาดการค้ากับต่างชาติและมีการจัดระเบียบการค้าโดยผ่านสมาคมพ่อค้าจีน จนถึงปี ค.ศ. 1839 เกิดสงครามฝิ่น อังกฤษจึงส่งกำลังทหารบีบจีนให้ยอมเปิด กวางเจา เซี่ยงไฮ้ หนินโป เซี๊ยะเหมิน และฝูโจว เป็นเมืองท่าให้ชาวตะวันตกเข้ามาค้าขายได้อย่างอิสระ เมืองกวางเจาได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 จนปัจจุบัน
12.35น. ถึงสนามบินเมืองกวางเจา (** เพิ่ม) รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
ส่งท่านที่ถนนคนเดิน “ซั่งเซี๊ยะจิ่ว” ให้ท่านเดินเล่นช้อบปิ้งของที่ระลึก ซื้อขนมพื้นเมือง เลือกซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ
19.00น. (**เพิ่ม) รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
นำท่านเข้าที่พักที่จัดให้ โดยสายการบินไชน่าเซาท์เธิร์นแอร์ไลน์
ที่พัก ...................สายการบินจัดให้


วันที่สอง กวางเจา-หลันโจว-วัดเจดีย์ขาว (เพิ่มรายการ)
เดินทางไปสนามบิน บริการอาหารเช้าเป็นอาหารกล่อง
08.45น. โดยเที่ยวบินที่ CZ 3205 นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองหลันโจว
11.40น. เดินทางถึงหลันโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่ มณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นจุดผ่านของเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ เป็นเมืองอุตสาหกรรมปิโตรเลี่ยมและเครื่องจักรกลหนัก ในสมัยโบราณเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกซีหยง มีพื้นที่ 390,000 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน ตอนบนมีเขตแดนติดต่อกับมองโกเลียในและมองโกเลียนอก
14.00น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
บ่าย (** เพิ่ม) นำชมวัดไป๋ถ่าซานหรือวัดเจดีย์ขาว ซึ่งตั้งอยู่บนเขาริมฝั่งแม่น้ำหวงเหอ เจดีย์ขาวสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน ยอดเป็นฉัตร 7 ชั้น 8 เหลี่ยม ฐานกลม สูง 17 เมตร บรรจุอัฐิพระลามะ ทาสีขาวทรงทิเบต นับเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองหลันโจว วัดนี้พระถังซำจั๋งเคยมาพำนักสนทนาธรรม
19.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่ FEITIAN HOTEL หรือ LEGEND HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า
* กรุณาจัดเสื้อผ้าและสัมภาระที่จำเป็นสำหรับค้าง 1 คืน ใส่กระเป๋าใบเล็ก (HANDBAG) เพื่อเดินทางไปเจียยวี่กวานและค้างคืนบนรถไฟ ส่วนกระเป๋าใบใหญ่ต้องใส่กุญแจล็อคเพราะจะฝากไปกับตู้สัมภาระรถไฟ


วันที่สาม หลันโจว-วัดปิ่งหลิงซื่อ-มารดาแม่น้ำเหลือง-กังหัน “สุ่ยเฌอ”-รถไฟ-เจียยวี่กวาน
06.00น. รับประทานอาหารเช้าที่ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เขื่อนลิ่วเจียเสีย เขื่อนชลประทานที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันตก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1964-1974 เป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ป้องกันน้ำท่วม จัดสรรน้ำเพื่อพื้นที่กสิกรรม ครอบคลุมบริเวณ 3 มณฑล คือ ชิงไห่ กานซู่ และส่านซี แล้วล่องเรือแม่น้ำหวงเหอ (แม่น้ำเหลืองหรือแม่น้ำวิปโยค) โดยเรือเร็ว (รวมค่าเรือ) ชมทิวทัศน์สวยงามสองฟากฝั่ง ชมวัดปิ่งหลิงซื่อ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขื่อนหลิวเจียเสีย ชมพระพุทธรูปแกะสลักจากหิน 694 องค์ ที่อยู่ในถ้ำผาริมแม่น้ำทั้งหมด 183 ถ้ำ สลักจากหินทรายเป็นผลงานปฏิมากรรมที่งดงามเป็นเลิศในช่วงศตวรรษที่ 5
12.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านชมอนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง “หวงเหอหมู่ชิง” แล้วนำชมกังหันวิดน้ำ “สุ่ยเฌอ”
19.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
หลังอาหาร เปิดห้องพักให้ท่านทำธุระส่วนตัว และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า (4-5 ท่าน/1 ห้อง) แล้วนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ
22.26น. โดยรถไฟขบวนที่ T 657 นำท่านเดินทางสู่เจียยวี่กวาน * พักบนรถไฟตู้นอนปรับอากาศ (4 ท่าน / 1 ห้อง)
** เดินทางช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. รถไฟอาจมีการแบ่งขบวนเดินทาง



วันที่สี่ ด่านเจียยวี่กวาน-เสียนปี้ฉางเฉิง-ตุนหวง
07.14น. ถึงเมืองเจียยวี่กวาน รับประทานอาหารเช้าที่ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม ด่านเจียยวี่กวาน ที่สูงตระหง่านเป็นปราการที่แข็งแรงและสำคัญที่สุดในภาคตะวันตก ชมป้อมปราการที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1372 สร้างแล้วเสร็จภายหลังสถาปนาราชวงศ์หมิง ชมลานจัตุรัสของป้อมปราการด้านในที่มีกำแพงรายล้อม ส่วนบนของกำแพงสูง 10 เมตร และ ยาว 640 เมตรเป็นที่ตั้งของหอระวังภัยซึ่งสร้างขึ้นในปลายราชวงศ์หมิงถึงต้นราชวงศ์ชิง ด้านหนึ่งทอดไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้สู่เทือกเขาฉีเหลียนซาน และอีกด้านหนึ่งทอดไปทางทิศเหนือสู่เทือกเขาเป่ยซาน ชมอนุสาวรีย์ด้านนอกของประตูตะวันตกสร้างขึ้นในราวปีที่ 14 ของจักรพรรดิเฉียนหลง มีคำจารึกว่า “ป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดในโลก” (รวมค่ารถแบตตารี่) ชมกำแพงเมืองจีนด่านสุดท้าย “เสียนปี้ฉางเฉิง” ที่สร้างขึ้นตามยอดภูเขาสูงชัน
12.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร
หลังอาหารเดินทางสู่เมืองตุนหวง โอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมืองชายแดนมณฑลกานซู่ที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติซินเกียงโดยรถโค้ช (4.30 ชั่วโมง)
20.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่ GRAND SUN HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า
* กรุณาจัดเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นใส่กระเป๋าใบเล็กสำหรับค้างคืนบนรถไฟ 1 คืน ส่วนกระเป๋าใบใหญ่ต้องใส่กุญแจล็อคเพราะจะฝากไปกับตู้สัมภาระรถไฟ


วันที่ห้า ตุนหวง–มรดกโลกถ้ำโม่เกา-เขาทรายร้องไห้-รถไฟ-ทูรูพาน
07.00น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านสู่เนินทราย “หมิงซาซาน” เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาว 40 ก.ม. สูงประมาณ 250 เมตร ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ เมื่อท่านขึ้นถึงยอดเนินเขาทราย ท่านสามารถไถลลื่นลงมาสู่เชิงเขาด้านล่างอย่างสนุกสนาน หากโอกาสเหมาะท่านอาจได้ยินเสียงกลองรบ เสียงม้าร้อง เสียงสู้รบและเสียงคนร้อง ตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพถูกพายุทรายพัดกระหน่ำและถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพอยู่ใต้ภูเขาทราย สานฝันขี่อูฐท่องทะเลทราย เดินตามกันเป็นทิวแถวไปตามสันทรายที่โค้งไปมา ภูเขาทรายดูเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ตัดกับฟ้าสวยสีครามใสที่ท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม (รวมค่าขี่อูฐแล้ว) แล้วนำท่านไปชมสระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทรายทั้งที่มีความลึกเฉลี่ยเพียง 6 เมตรเท่านั้น
12.00น. รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร
บ่าย ชมถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก “โม่เกา” เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 495 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงาม มีพระพุทธ รูปแกะสลัก และองค์เจ้าแม่กวนอิม ในคูหาต้นๆเป็นผลงานการบุกเบิกของพระสงฆ์เล่อจุนในปี ค.ศ. 366 ส่วนคูหาสุดท้ายขุดเมื่อยุคที่มองโกลมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจีนในปี ค.ศ. 1277 ดังนั้นประติมากรรม หรือจิตรกรรมที่ท่านจะได้ชมที่ถ้ำโมเกาแห่งนี้เกิดจากความเพียรพยายามของจิตรกรและช่างหลากยุคหลายสมัยตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่นับเนื่องยาวนานเกือบ 1,000 ปี
18.00น. รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร
หลังอาหาร เปิดห้องพักให้ท่านทำธุระส่วนตัว และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า (4-5 ท่าน / 1 ห้อง) แล้วนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟหลิวหยวน
20.06น. โดยรถไฟขบวนที่ K 949 นำท่านเดินทางสู่เมืองทูรูพาน * พักบนรถไฟตู้นอนปรับอากาศ (4 ท่าน / 1 ห้อง) ** เดินทางช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. รถไฟอาจมีการแบ่งขบวนเดินทาง
โปรดทราบ ในกรณีที่ตั๋วมีการแบ่งขบวนกระจายมากจนเกินไป บริษัทฯอาจพิจารณาให้เดินทางโดยรถบัสไปค้างคืนที่เมืองฮาร์มี่ 1 คืน และรุ่งเช้าเดินทางเข้าทูรูพานท่องเที่ยวตามรายการวันที่หกต่อไป


วันที่หก ทูรูพาน-เมืองเกาซาง-เมืองเจียวเหอ-เขาเปลวไฟ-ถ้ำพันพระ-คานเอ๋อจิ่ง-สวนองุ่น-มัสยิด * โชว์
05.41น. รถไฟถึงทูรูพาน เมืองโอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมือง 3 ที่สุดในเขตซินเกียง (1. ต่ำที่สุดในจีน ต่ำจากระดับน้ำทะเล 154.43 เมตร 2. ร้อนและแห้งที่สุดในจีน อุณหภูมิเฉลี่ย 35 องศาเซลเซียส เคยร้อนสูงสุดถึง 49 องศาเซลเซียส 3. ลมแรงสุด จึงมีโรงงานไฟฟ้าพลังลมหลายแห่ง)// นำท่านไปรับประทานอาหารเช้าที่ภัตตาคาร // หลังอาหารนำท่านไปชมซากเมืองโบราณเกาชาง (รวมรถลา) ภาษาอุยกูร์เรียก DUHU CITY มีความหมายว่า เมืองกษัตริย์ สร้างโดยหน่วยทหารที่ถูกส่งมาพัฒนาพื้นที่ในยุคอาณาจักรCHESHI ซึ่งขณะนั้นตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ประมาณ 100 ปีก่อนคริสตกาล) ที่นี่ถูกเรียกว่ากำแพงเกาชางหรือด่านเกาชางในปลายราชวงศ์ฮั่นถึงราชวงศ์เว่ย และราชวงศ์จิ้น เมื่อส่วนกลางส่งทหารและเจ้าหน้าที่ปกครองจากเมืองหลวงเข้ามาดูแลพื้นที่คอยป้องกันการรุกรานของเผ่าเซียงหนู เมืองเกาชางสิ้นสุดและถูกทำลายยับเยินเพราะสงครามในปลายศตวรรษที่ 13 บนพื้นที่ 2 ตารางกิโลเมตรท่านจะได้เห็นซากเมืองเก่า กำแพงเมืองเก่า ที่ยังคงเหลือร่องรอยอารยธรรมที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน จากนั้นนำท่านไปชมเมืองโบราณ “เจียวเหอกู่เฉิน” ที่มีอายุเก่าแก่กว่าเมืองโบราณเกาชางประมาณ 100 ปี เคยเป็นเมืองหลวงในยุคอาณาจักร CHESHI ถูกทำลายโดยสงคราม 40 ปี หลังสิ้นศตวรรษที่ 13
14.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านไปชม “คานเอ๋อจิ่ง” ระบบชลประทานใต้ดินของทูรูพาน ซึ่งมีการต่อท่อเพื่อนำน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งบนภูเขาสูงลงมายังที่ราบแถบโอเอซีส โดยการขุดท่อใต้ดินเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในฤดูร้อน จากนั้นนำชมเจดีย์ซูกงถ่าและมัสยิดเอ๋อหมิ่น แล้วนำท่านไปชมสวนองุ่น “ผู่เถาโกว” เมืองทูรูพานเป็นเมืองผลไม้ที่ลือชื่อของมณฑลซินเกียง มีทั้งองุ่น ลูกท้อ แอพริคอด แตงฮามี โดยเฉพาะองุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกมากที่สุด ส่งขายทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะองุ่นอบแห้งเป็นที่รู้จักดีในท้องตลาดมานานแล้ว ช่วงที่มีผลไม้มากที่สุดคือในระหว่างเดือน ก.ค.–ส.ค. ในช่วงดังกล่าวจะมีงานเทศกาลองุ่นเป็นงานประจำปี แล้วนำท่านไปชม ฝอเยี่ยนซาน หรือ ภูเขาเปลวไฟ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเปลวไฟ เพื่อให้พระถังซำจั๋งได้เดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดียต่อ ภูเขาเปลวไฟมีลักษณะเป็นเขาหินสีอิฐแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเลย มองแต่ไกลจะเห็นเป็นสีเพลิงคล้ายไฟกำลังลุกไหม
จากนั้นนำท่านไปชม เชียนฝอต้ง หรือ ถ้ำพระพันองค์ ซึ่งเป็นมรดกโลกของจีนโบราณที่มีชื่อในวงการศิลปกรรมโลก ประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 490 ถ้ำ เจาะตามผนังเขา มีภาพเขียนและรูปปั้นเกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก เฉพาะที่เขียนด้วยสีอย่างงดงามตระการตามีมากถึง 45,000 ตารางเมตร ชมรูปปั้น 2,000 องค์ที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เว่ยถังหยวน ชมภาพบนกำแพงที่แกะสลักเป็นรูปหุ่น 500 กว่าตัวที่มีชื่อเสียงและได้รับการดูแลรักษาอย่างดีตลอดมา
20.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร * ชมโชว์พื้นเมืองซินเกียง
พักที่ HOUZHOU HOTEL ระดับ 4 ดาว / หรือ GRAND TULUPAN HOTEL


วันที่เจ็ด ทูรูพาน-ต้าป้านเฉิน-อูรูมูฉี-ทุ่งหญ้าหนานซาน
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางสู่เมืองอูรูมูฉีโดยรถยนต์ ผ่านชมทะเลสาบเกลือ และผ่านโรงงานพลิตไฟฟ้าจากพลังลมที่เมืองต้าปั่นเฉิน แวะชมโรงงานพรมทอมือซินเกียง ที่มีชื่อเสียง
14.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร
บ่าย นำชมทุ่งหญ้าหนานซานมู่ฉาง ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ของมณฑลซินเกียง ชมวิถีชีวิตของชาวเผ่าฮาซะเค๋อที่พักอาศัยอยู่ในกระโจม (รวมค่าขี่ม้าชมทุ่งหญ้าครึ่งชั่วโมง) แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองอูรูมูฉี อูรูมูฉีเป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง ตั้งอยู่แถบเทือกเขาเทียนซานที่ความสูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีประชากร 2.8 ล้านคน เป็นเขตปกครองตนเองที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากที่สุด ประชากรทั้งมณฑลมีประมาณ 160 ล้านคน ชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวซินเจียงที่มีพลเมืองกว่า 70 % นับถือศาสนาอิสลาม มีภาษาหนังสือท้องถิ่นเป็นของตนเอง ในอูรูมูฉีจึงมีป้ายบอกชื่อสถานที่ต่างๆ 2 ภาษา คือภาษาท้องถิ่น (ภาษาเว่ยอู๋เอ่อร์) และภาษาจีนกลาง
20.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่ YILITE HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า


วันที่แปด อูรูมูฉี-เขาเทียนซาน-ทะเลสาบเทียนฉือ-สวนหงซาน-ตลาดบาซาร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00น. นำท่านสู่ เทือกเขาเทียนซาน ซึ่งมีความสูง 5,445 เมตรจากระดับน้ำทะเล นำท่านชมความงามธรรมชาติของป่าสนภูเขาหิมะสูงชัน นำท่านล่องเรือในทะเลสาบเทียนฉือ ทะเลสาบสรวงสวรรค์ ที่มีความสูงถึง 1,900 เมตรจากระดับน้ำ ทะเล (รวมค่ารถแบตตารีและค่าเรือแล้ว)
15.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร
นำชมวิวทิวทัศน์เมืองอูรูมูฉีบริเวณสวนหงซาน แล้วเข้าชมตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมือง (บาซ่าร์) เพื่อชมชีวิตของชาวบ้านและเลือกซื้อของที่ระลึก เช่น ผ้าพันคอสีสวย เครื่องเงินแบบอาหรับ ผลไม้อบแห้ง เช่น องุ่น แอปริคอด กีวี อินทผาลัม เลือกซื้อเมล็ดอัลมอนอบแห้ง เมล็ดวอลนัตอบแห้ง และถั่วอบแห้งชนิดต่างๆ
20.00น. รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่ YILITE HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า


วันที่เก้า พิพิธภัณฑ์ซินเกียง-กวางเจา
07.00น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
สถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดชม ชมพิพิธภัณฑ์ซินเจียง ชมหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นได้ทั่วมณฑลซินเจียง ชมการจำลองบ้านเรือน เครื่องมือ เครื่องใช้ขนาดเท่าของจริง ของชนกลุ่มน้อยทุกเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ และจุดเด่นคือซากมนุษย์โบราณ (โฉมงามลั่วหลาน) ที่เป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรปที่ขุดพบในซินเจียง มีอายุกว่า 3,000 ปี
12.00น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร แล้วเดินทางไปสนามบิน
15.30น. เดินทางกลับสู่สนามบินกวางเจา โดยเที่ยวบินที่ CZ 6885 ** รับประทานอาหารเย็นบนเครื่อง
20.10น. ถึงสนามบินกวางเจา *** รับประทานอาหารรอบดึก...อุ่นท้องที่ภัตตาคาร
พักที่ CANTON HOTEL หรือ YUNSHAN HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า


วันที่สิบ กวางเจา-ถนนปักกิ่ง-กรุงเทพฯ
07.00น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
อิสระช้อบปิ้งที่ถนนปักกิ่ง
11.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร ** ชวนชิมนกพิราบน้ำแดง
16.00น. เดินทางกลับประเทศไทยโดยเที่ยวบิน CZ 363
** ตารางบินตั้งแต่เดือนพ.ค. อาจมีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินและเวลาบิน
17.55น. เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ