แกรนด์โครเอเชีย 8 วัน เดินทาง 17 – 24 พ.ค. ราคา 81900 บาท

คลับฮอลิเดย์ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่โลกแห่งการท่องเที่ยวครบวงจร ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วนักเรียน ทัวร์ต่างประเทศและในประเทศ แพ็คเกจทัวร์ รับทำวีซ่า ทัวร์หมู่คณะ กรุ๊ปเหมาสัมมนา การศึกษาต่อต่างประเทศ รวมถึงการจองโรงแรมทั่วโลก ในราคาสุดพิเศษและพร้อมให้คำปรึกษาในการเดินทางของทุกๆท่านเลยค่ะ.....คลิ๊กเลยhttp://www.clubholidaythailand.com
หรือ Tel.02-5832565 (Auto) Fax.02-9646958 Mobile.082-9849221,081-9052175 (24Hrs.)
คัดสรรค์ทุกสิ่งเพื่อทุกท่าน พบกับรายการพิเศษ เลยค่ะ

แกรนด์โครเอเชีย 8 วัน (OS)
ซาเกรบ – โอพาเทีย – ริเยก้า – อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่
ซาดาร์ - ซีเบนิค - โทรกีร์ – สปลิท – ดูบรอฟนิค



กำหนดการเดินทาง
17 – 24 พ.ค.
5 – 12 , 19 - 26 มิ.ย.
8 – 15 , 15 - 22 ก.ค. 2554
ราคา 81900 บาท



วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพ ฯ / ซาเกรบ
20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ G
โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซาเกรบ ประเทศโครเอเซีย โดย สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์
เที่ยวบินที่ OS 026/681 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา 05.35 น. – 07.00 น.)


วันที่สองของการเดินทาง ซาเกรบ (โครเอเชีย) – ชมเมือง – โอพาเทีย – ชมเมือง
07.50 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เมืองซาเกรบ (ZAGREB) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่ง
แม่น้ำซาวา (SAVA) และภูเขาเขาเมดเวดนีตซา (MEDVEDNICA) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
มากว่า 1000 ปี ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองเศรษฐกิจ การค้า และการศึกษา หลังจากผ่านพิธีการ ตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว นำท่าน ชมย่านเมืองเก่า ซึ่งจัดแบ่งออกเป็น 2 เขต คือ Lower & Upper Town
อย่างลงตัว ผ่านชมโรงละครแห่งชาติ ที่สร้างขึ้นในสไตล์นีโอบาร็อค มีลักษณะเป็นรูปตัว U และรายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “The Green Horse shoe” ชมบริเวณที่เป็น สถานที่ทำการรัฐบาล (SABOR) และแกลเลอรี่ ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของคนชาติโครแอตที่แยกตัว ออกจากยูโกสลาเวียในอดีต นำท่าน ผ่านชมมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น(St. Stephen's Cathedral) มียอดแหลมทรงกลวยคู่บนยอดวิหารตกแต่งอย่างงดงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอโกธิค งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์, เซนต์ปอลล์ ผ่านชมโบสถ์เซนต์มาร์ค (ST.MARK’S CATHEDRAL) โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่ปูเป็นรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง เช่น ตราหมากรุกสีแดง-ขาว หมายถึงโครเอเชีย ส่วนหัวลีโอพาร์ด 3 ตัวแทนแคว้นดัลเมเทีย แถบสีแดง ฟ้า ขาว หมายถึง สโลวาเนีย และตราฝั่งขวามือ คือ ตราของกองกำลังแห่งซาเกรบชมกำแพงหินโบราณ ยุคศตวรรษที่ 13 ที่สร้างรายล้อมเมืองเก่าซึ่งยังคงความอัศจรรย์ของภาพพระแม่มารีที่ไม่ถูกเผาทำลายเมื่อไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปีค.ศ.1731จากนั้นนำท่าน ชมตลาดกลางเมือง (DOLAC MARKET) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรปและยังมีสีสันสุดๆ โดยตลอดแนวถนนจะมีร้านอาหาร คาเฟ่ต์น่ารักๆ ใต้ร่มสีสดใส ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอพาเทีย (OPATIJA) (175 กิโลเมตร) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ
ซึ่งได้รับการขนานนามว่า ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค ทะเลที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์และรีสอร์ทตากอากาศของฝั่งทะเล
อาเดรียติค เดินทางถึง เมืองโอพาเทีย นำท่าน แวะถ่ายภาพกับรูปปั้นนางแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม BRISTOL หรือเทียบเท่า



วันที่สามของการเดินทาง โอพาเทีย - ริเยก้า – ชมเมือง - อุทยานแห่งชาติพลิตวิเช่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองริเยก้า (RIJEKA) (20 กิโลเมตร) เป็นเมืองอุตสาหกรรมการต่อเรือขนาดใหญ่ ศูนย์กลาง
การค้า การคมนาคม เดินทางถึง เมืองริเยก้า นำท่าน ชมย่านเมืองเก่า หอระฆังเอียง และโบสถ์ขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับศิลปะและวัฒนธรรมจากประเทศอิตาลี ชมประตูย่านเมืองเก่าที่เคยใช้ในการต้อนรับกษัตริย์จากออสเตรียในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จนได้เวลาอันสมควร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (NATIONAL PARK PLITVICE JEZERA) (230 กิโลเมตร) ซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำภูเขามาลา คาเปลา (MALA KAPELA) ไหลผ่านหินปูนหลายพันปี ทำให้หินปูนถูกกัดเซาะ ไหลไปกองรวมกันเป็นระยะ เกิดเป็นเขื่อนธรรมชาติ มีความสูงลดหลั่นกันลงไปทั้งสิ้น 16 แห่ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เมื่อปี 1979 เดินทางถึง อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม JEZERO หรือเทียบเท่า



วันที่สี่ของการเดินทาง อุทยานแห่งชาติพลิตวิเช่ – ล่องเรือ – ซาดาร์ - ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชมอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำ มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา นำท่านเพลิดเพลินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมไปด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวในอุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ) จากนั้นนำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน ชมความงามของอุทยานตอนล่างและชมความงดงามของ Big Waterfalls ซึ่งท่านจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศของสายน้ำอันชื่นฉ่ำ บนพื้นน้ำสีคราม และเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลสาบตลอดจนไม้ป่าจำพวกสน เฟอร์ ฯลฯ อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์ภายในอุทยานแห่งชาติตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์ (ZADAR) (140 กิโลเมตร) เมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลอาเดรียติก อดีตเป็นเมืองหลวงของแคว้นดัลเมเทียที่ร่ำรวยไปด้วยอารยธรรมโรมันที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 3,000 ปี ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่สวยงามของเมืองนี้ เดินทางถึง เมืองซาดาร์ นำท่าน ชมโบสถ์ St.Donatus ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม
Pre- Romanesque ที่แพร่ในยุโรปตะวันตกช่วงศตวรรษที่ 9 ชม Roman Forum สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของทะเลอเดรียติค
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม BASTION หรือเทียบเท่า



วันที่ห้าของการเดินทาง ซาดาร์ – ชมเมือง - ซีเบนิค – ชมเมือง - โทรกีร์ – ชมเมือง – สปลิท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีเบนิค (SEBINIK) (85 กิโลเมตร) เป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศโครเอเซีย นำท่านชมตัวเมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีส้ม สไตล์เรอเนอซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางประเทศอิตาลี ชมสภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราวปี ค.ศ.15 จากนั้นนำท่าน ชมมหาวิหารเซนต์จาคอบ(CATHEDRAL OF ST.JACOB) สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1431-1535 เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่าง 3 ศิลปกรรม คือ ดาลมาเชีย (ท้องถิ่น) ศิลปะทางเหนือของอิตาลี และทัสคานี ทั้งวิหารล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมดไม่มีซีเมนต์ บัวใต้ชายคาเป็นรูปศีรษะคน 71 ชิ้น ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะกอธิคและเรอ เนซองส์ ซึ่งผสมผสานเข้ากันได้อย่างงดงาม แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านงานศิลปะจากยุคกอธิคสู่ยุคเรอเนซองส์
ซึ่งยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโทรกีร์ (TROGIR) (55 กิโลเมตร) เมืองขนาดเล็กบนเกาะที่ตั้งอยู่เกือบชิดกับแผ่นดินใหญ่ เป็นเมืองตั้งแต่ยุคกรีกโรมัน และได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองเก่า ทั้งป้อมปราการจัตุรัส และกำแพงเมือง จึงได้รับ
การยอกย่องจากยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกใน ปี ค.ศ. 1997 เดินทางถึง เมืองโทรกีร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเขตเมืองเก่า ซึ่งมีบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนและยังเป็นเมืองที่รวบรวมเอาสถาปัตยกรรมต่างยุคไว้มากที่สุดในยุโรปตะวันออก มีทั้งโรมาเนสก์ เรอเนสซองส์ บารอค และกรีกโรมันโบราณ เช่น ประตูเมือง (KOPNENA VRATA) ที่มีการบูรณะขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกา (FOGGIA & CLOCK TOWER) สมัยศตวรรษที่ 14 นำท่าน ผ่านชมมหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ (Cathedral of St. Lawrence) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในรูปแบบของศิลปะแบบโรมันเนสก์ โดยมีสิงโต อดัม & อีฟ และรูปสลักนักบุญองค์สำคัญต่างๆ ได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท (SPLIT) (30 กิโลเมตร) เมืองใหญ่อันดับที่สองรองจากเมืองซาเกรบ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ ศูนย์กลางทางธุรกิจ การคมนาคมของแคว้น
ดัลเมเชี่ยน ที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม GLOBO หรือเทียบเท่า



วันที่หกของการเดินทาง สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเธียน – ชมเมือง - ดูบรอฟนิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชมพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธียน
ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี และองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก นำท่าน ชมห้องโถงกลาง ซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร THE CATHEDRAL BELFRY แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาซิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร ชมจตุรัสประชาชน ผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชียในยุคศตวรรษที่ 10
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (DUBROVNIK) (220 กิโลเมตร) เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย ที่มีข้ามพรมแดนติดประเทศบอสเนีย และเฮอร์เซโกวีน่า เมืองโบราณแห่งนี้เป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป มีฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค” ซึ่งก็นับว่าเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองโดยเฉพาะเรื่องของการวาง ผังเมืองที่สวยงาม ในอดีตเป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา มีอำนาจในการควบคุมการเดินเรือในทะเลเอเดรียติค
และเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางธุรกิจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองเมืองดูบรอฟนิค จึงเป็นเมืองที่ร่ำรวย มีเงินทองเหลือเฟือ ในการตกแต่งพระราชวัง โบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่างๆ อย่างงดงามตามยุคสมัย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทั้งแบบกอธิค เรอเนสซองส์ และ บารอค เมืองโบราณดูบรอฟนิค เคยเป็นเป้าหมายการถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ ได้รับความเสียหายและทรุดโทรม จากนั้นต่อมาในปีค.ศ.1995 จึงได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก องค์การยูเนสโก้จึงได้เข้าไปช่วยเหลือบูรณะ และรับให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก GRAND HOTEL PARK หรือเทียบเท่า



วันที่เจ็ดของการเดินทาง ดูบรอฟนิค – ชมเมือง - กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชมเมืองเก่า ซึ่งโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณสูงตระหง่านในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ และในเขตเมืองเก่าประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก และเป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิคมาสร้างบ้านเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 นำท่าน ชมประตูเมือง (PILE GATE) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของเมืองเก่า และพื้นทางเดินถูกสร้างขึ้นจากหินในปี 1537 ชมน้ำพุโบราณทรงกลม (Onofrio Fountain) เป็นน้ำพุที่ใช้หล่อเลี้ยงประชากรในยามมีศึกสงคราม นำท่านชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น Franciscan Monastery วิหารในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ซึ่งดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391 อิสระให้ท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบประกอบกิจกรรมต่างๆ ของเมืองในอดีต อิสระให้ท่าน ถ่ายรูปกับเสาหินอัศวิน (Orlando Column) หอนาฬิกา (Bell Tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลักสร้างขึ้นเมื่อ ปีค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งเป็นแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง และโบสถ์ The Cathedral Treasury สถานที่เก็บอัฐิของนักบุญ St. Blaise รวมถึงภาพเขียน ชิ้นงานศิลปะ วัตถุล้ำค่าจำนวนมาก รวมถึงเหรียญกษาปณ์ และทองที่มีชื่อเสียงของเมืองดูบรอฟนิคอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค
15.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ OS 732/015
(แวะเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา 16.50 น.– 23.20 น.)



วันที่แปดของการเดินทาง กรุงเทพฯ
14.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ...
************


อัตรานี้รวม
• ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ ชั้นนักทัศนาจรตามที่ระบุในรายการ
• ค่าโรงแรมที่พักตามรายการ / - ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
• ค่าวีซ่าทุกประเทศตามรายการ / ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
• ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญงานคอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
• ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงินท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์



อัตรานี้ไม่รวม
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุในรายการ
• ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % / ทิปคนขับรถ 2 ยูโร / คน / วัน




สนใจและติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ (202)
Club Holiday Co.,Ltd.
TEL.02-5832565 (Auto) Fax.02-9646958
Hotlines24Hrs.082-9849221,081-9052175
http://www.clubholidaythailand.com
email. [email protected]