น้ำแร่เพื่อสุขภาพ

1. ดื่มน้ำแร่ธรรมชาติแล้วดีอย่างไร
น้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้ง มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว การดื่มน้ำแร่ธรรมชาติจึงเป็นการเสริมแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไป หรือได้รับไม่เพียงพอจากการรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ ส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพดี รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และยังเป็นการล้างพิษด้วยวิธีธรรมชาติที่สะดวกและง่าย เพราะเป็นน้ำที่สะอาดจากธรรมชาติ ทุกคนสามรถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านทุกวัน ด้วยราคาที่ถูกแสนถูก ราคา แพ็คละ 100 บาทเท่ากัน ขนาดบรรจุ/ขวด ขวดใหญ่ 1500 มิลลิลิตร ขวดเล็ก 600 มิลลิลิตร ขวดใหญ่ 6 ขวด/1 แพ็ค ขวดเล็ก 12 ขวด/แพ็ค

2. น้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้งมีกระบวนการผลิตอย่างไร
 ใช้แหล่งน้ำแร่จากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติใต้เทือกเขาตะนาวศรีที่มีคุณภาพ โดยการเจาะลึกลงใต้ดินบริเวณธารน้ำร้อนบ่อคลึง ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานถึงชื่อเสียงด้านคุณภาพน้ำแร่ธรรมชาติของราชบุรี ผ่านการตรวจวิเคราะห์ตามมาตรฐานน้ำแร่ธรรมชาติสถาบัน SGS ที่ประเทศอังกฤษยอมรับ
 ผ่านกระบวนการตกตะกอน และกรองตะกันด้วยวิธีอัลตร้าฟิวเตรชั่น (Ultra Filltration) ที่มีความละเอียดถึง 0.002 ไมครอน
 บรรจุ ณ แหล่งต้นกำเนิดโดยใช้ห้องบรรจุที่ได้รับมาตรฐาน ใช้น้ำล้างขวดชนิดเดียวกับน้ำที่ใช้บรรจุ บรรจุในขวด PET วิธีการบรรจุได้รับมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice)

น้ำแร่ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
ในประเทศไทยน้ำดื่มที่ทั้งปลอดภัยต่อสุขภาพและมีรสชาติดีหาได้ยากยิ่ง เป็นน้ำดื่มธรรมชาติที่ไม่กระด้างบริเวณเขตภูเขาหินแกรนิตมานานแล้วโดยกำหนดให้ค่าความเข้มข้นของสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนตและแมกนีเซียมมีน้อยกว่า 20 มิลลิกรัม เมื่อเทียบกับน้ำแร่ธรรมชาติรอกโกะที่มีอายุยืนยาวกว่านั้นแต่ด้วยคุณภาพของน้ำก็ทำให้เราเชื่อว่าน้ำแร่สวนผึ้งคือสุดยอดของน้ำแร่ในประเทศไทยเพราะมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพละลายอยู่ครบถ้วน คุณอยากรู้ว่าดีอย่างไร เพียงคุณใช้น้ำแร่นี้ชงกาแฟหรือหุงหาอาหาร คุณก็จะบอกถึงความแตกต่างระหว่างน้ำดื่มทั่วไปกับน้ำแร่สวนผึ้งได้ทันที

เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต
ความเลอะเทอะของน้ำดื่มบรรจุขวดและข้อแนะนำผู้ใช้น้ำอาร์โอ

จากการสำรวจตรวจสอบน้ำดื่มบรรจุขวดที่จำหน่ายอย่างแพร่หลายในกรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2546 พบว่าผู้บริโภคมีความเสี่ยงในการเลือกน้ำดื่ม ซึ่งมีอยู่เกือบ 10 ประเภท โดยไม่มีทางที่จะทราบได้เลยว่า น้ำใสๆ ในขวดนั้นเป็นอะไรกันแน่ เพราะส่วนใหญ่ฉลากไม่ได้บอกข้อมูลให้ชัดเจน บางยี่ห้อก็มีฉลากไม่ตรงกับความเป็นจริงและมีการหลอกลวงผู้บริโภคด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ฉลากระบุว่าเป็นน้ำดื่มที่ผลิตด้วยระบบรีเวอร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “น้ำดื่มอาร์โอ” แต่เมื่อตรวจสอบแล้วมีแร่ธาตุอยู่มากมายกลายเป็น “น้ำดื่มอาร์โอปลอม”
ในเวลาเดียวกันมีหลายยี่ห้อที่ไม่ได้ระบุบนฉลากว่าเป็นน้ำดื่มอาร์โอ แต่กลับพบว่าเป็นน้ำดื่มอาร์โอ เรียกว่าเป็น “น้ำดื่มอาร์โอแฝง”
ที่ร้ายยิ่งกว่านั้นมีน้ำแร่อย่างน้อย 2 ยี่ห้อ จาก 5 ตัวอย่างที่จำหน่ายในราคาแพงกว่าน้ำดื่มธรรมดามาก เมื่อเอามาตรวจสอบดูแล้วกลายเป็น “น้ำแร่ปลอม”
ส่วนน้ำดื่มอาร์โอจากตู้หยอดเหรียญ ซึ่งถือได้ว่า เป็นน้ำที่บริสุทธิ์มาก หากดื่มประจำเป็นเวลานาน จะมีโทษต่อสุขภาพร่างกายได้มากมาย เช่น โรคหัวใจ ไมเกรน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระดูกพรุน ปวดตามข้อ และแก่ก่อนวัย เป็นต้น ซึ่งมีผลงานวิจัยรองรับเรื่องนี้จากหลายประเทศ

จึงขอแนะนำให้ใช้น้ำดื่มอาร์โอบริสุทธิ์ดังต่อไปนี้

1. ไม่ควรดื่มเวลาท้องว่าง หรือเวลาอดอาหาร เพราะจะมีอันตรายมากกว่าปกติ
2. ไม่ควรแช่โลหะ เช่น ช้อน ส้อม ที่เป็นโลหะ รวมทั้งภาชนะที่บรรจุต้องไม่เป็นโลหะ เช่น อะลูมิเนียม ควรใช้พลาสติกหรือแก้วชนิดพิเศษที่ทนต่อการกัดกร่อนของน้ำบริสุทธิ์ได้ ซึ่งจะเห็นได้จากปลายที่น้ำของตู้หยอดเหรียญก็เป็นพลาสติก ทั้งนี้ เพราะน้ำบริสุทธิ์มีฤทธิ์ในการละลายและสกัด กัดกร่อนแร่ธาตุต่าง ๆ ได้ดีเป็นพิเศษ
3. ไม่ควรใช้ล้างพืชพักหรือแช่พืชผลไม้ เพราะจะชะล้างเอาแร่ธาตุที่มีประโยชน์ออกไปได้ ทำให้คุณค่าอาหารลดลง
4. ไม่ควรใช้เลี้ยงปลา เพราะว่าบริสุทธิ์มากไปที่ปลาจะอยู่ได้ ถ้าจะใช้ควรมีหินแช่เอาไว้ในตู้ปลาด้วย เพื่อจะได้ละลายหินเอาแร่ธาตุออกมาปลาจะได้ปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม น้ำดื่มอาร์โอก็มีประโยชน์ เช่น ใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์ได้ เพราะมีความบริสุทธิ์มากว่าน้ำกลั่นบางยี่ห้อที่จำหน่ายอยู่ตามปั๊มน้ำมัน มีคำเตือนไว้ว่า “ใช้เติมแบตเตอรี่เท่านั้น”และวงการแพทย์ใช้ ล้างพิษ เป็นต้น
การดื่มน้ำอาร์โอจากตู้หยอดเหรียญ หรือที่บรรจุขวด จึงไม่ต่างจากการดื่มน้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่เท่าไรนักและแร่ธาตุในร่างกายที่มีอยู่น้อย (Trace Elements) ก็อาจ”ชะล้าง”ออกไป ทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ แม้จะรับประทานเกลือแร่เสริมเข้าไปก็ชดเชยกันไม่ได้ เป็นเหตุให้เจ็บป่วยได้ดังที่กล่าวมา
อีกประการหนึ่ง น้ำดื่มบรรจุขวดที่ไม่ได้ใช้ระบบอาร์โอหรือรีเวอร์สออสโมซิส ก็ยังมีข้อน่าคิดพิจารณาด้วยว่า มีการใช้เรซิน (Softener Resin)กำจัดความกระด้างของน้ำ ทำให้ไม่มีเกลือแร่แคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำคือเป็นน้ำอ่อนก็จะมีโทษในการใช้ดื่มเช่นกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้คือ น้ำดื่มอาร์โอซึ่งเป็นน้ำอ่อนที่สุดไม่มีเกลือแร่ละลายอยู่เลย ย่อมไม่เกินปริมาณที่ทางราชการกำหนดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 135 พ.ศ. 2534 เรื่องน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทแต่มีโทษหลายอย่างดังกล่าวมาข้างต้น ก็ยังจำหน่ายได้โดยไม่ผิดกฎหมายที่มีช่องว่าง
อนึ่ง น้ำในร่างกายมนุษย์มีถึง 70% ของน้ำหนัก ถึงเวลาหรือยังที่เราควรจะศึกษาวิจัย และให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำดื่มมากกว่านี้ และถึงเวลาหรือยังที่ฉลากของน้ำดื่มบรรจุขวด รวมทั้งบนตู้น้ำหยอดเหรียญควรจะมีข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องอย่างสมบูรณ์ ผู้บริโภคจะได้ทราบตามสิทธิขั้นพื้นฐาน และบริโภคได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
น้ำดื่มที่มีอยู่เกือบ 10 ประเภท ได้แก่ (1) น้ำดื่มอาร์โอแท้ (2)น้ำดื่มอาร์โอปลอม (3)น้ำดื่มอาร์โอแฝง (4)น้ำแร่ของแท้ (5)น้ำแร่ของปลอม (6)น้ำแร่เทียม (7)น้ำอ่อนผ่านเรซิน และ (8)น้ำดื่มไม่ผ่านเรซิน ต่อไปอาจมี “น้ำดื่มเอื้ออาทรปรุงแต่ง”ซึ่ง ฯลฯ รัฐมนตรีสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่าจะให้เติมเกลือแร่ตามความเหมาระสมในตู้หยอดเหรียญน้ำดื่มเอื้ออาทรรุ่นต่อไปที่ติดตั้งไปแล้ว และที่บรรจุขวดจำหน่ายอยู่ทั่วไป จะทำอย่างไรให้มีประโยชน์ไร้โทษภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค
กล่าวโดยสรุปสำหรับประชาชน ควรใช้เครื่องกรองที่ไม่ใช้เรซิน ที่มีการล้างด้วยน้ำเกลือ และไม่ใช้ระบบรีเวอร์สออสโมซิส เครื่องกรองที่ดีต้องไม่มีการกำจัดเกลือแร่ที่มีประโยชน์ เช่น แมกนีเซียม โดยหลีกเลี่ยงระบบรีเวอร์สออสโมซีสจะดีกว่า เพราะระบบนี้ทำให้น้ำบริสุทธิ์มากเกินไปที่จะใช้ดื่ม
มีข่าวหนึ่งที่ทำให้ต้องหันมาตระหนักถึงบางอย่างใกล้ตัว
1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขาย ๆ กันตามห้างสรรพสินค้า เซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800 แถมน้ำ 1 ขวด อะไรทำนองนั้น ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า โดยสารพิษชนิดหนึ่ง สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบเพื่อใช้ครั้งเดียว อายุการใช้งานสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย นำมาบรรจุน้ำดื่มอีกเพราะสารพิษดังกล่าวคือสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง รวมทั้งน้ำที่มากับขวด หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์ ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดในที่ ๆ ร้อน ๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว ควรดื่มให้หมดภายใน ระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ ถ้าเก็บที่อุณภูมิห้องธรรมดา ไม่ถูกแสงแดดจะปลอดภัยจากสารพิษดังกล่าว





Suanpueng Natural Mineral
Water For Better Life