เพชรน้ำเอก ปานมณีรุ้ง และนวนิยายหนังสือดีที่ไม่ควรพลาด รวมผลงานเด่นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ - -- ลด 40% -- ซื้อ 3 เล่ม 385 บาท

อ้างอิงจาก http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=2475


1. เพชรน้ำเอกเป็นการรวมเรื่องสั้นและความเรียงที่คัดสรรจากผลงานของศิลปินแห่งชาติ จำนวน ๗ ท่าน

ได้แก่ ฮิวเมอร์ริสต์ ,อาจินต์ ปัญจพรรค์,ลาว คำหอม,อัศศิริ ธรรมโชติ,ระวี ภาวิไล,กรุณา กุศลาสัย และเขมานันทะ พร้อมข้อเขียนเรื่อง “โลก”ของนักเขียน:ข้อคิดจากงานคัดสรรของศิลปินแห่งชาติ โดย รศ.ดร.สรณัฐ ไตลังคะ ที่จะกล่าวแนะและปูทางให้เราเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องสั้นความเรียงแต่ละเรื่องตามที่ปรากฏในเล่ม เช่น เรื่อง“สุนทรพจน์เปิดส้วมสาธารณะ”ของฮิวเมอร์ริสต์หรือครูอบ ไชยวสุหนึ่งในเรื่องสั้นในเล่มที่รศ.ดร.สรณัฐ บอกว่าเป็นเรื่องเสียดสีการเมืองได้อย่างถึงแก่น เพราะสามารถล้อเลียนพิธีการของราชการผ่านสุนทรพจน์ของคนใหญ่คนโตที่ทำกันจนเฝือ แม้กระทั่งการเปิดส้วมสาธารณะยังต้องมีพิธีการความน่าขันของเรื่องอยู่ที่การใช้ภาษาเลียนแบบสุนทรพจน์และสร้างความเป็นเหตุเป็นผลได้อย่างมีหลักการโดยให้เหตุผลว่าหากไม่มีส้วมสาธารณะอาจจะส่งผลต่อเนื่องทำให้เศรษฐกิจของชาติล้มครืน และเป็นเหตุผลสำคัญของการแพ้สงครามได้ แค่เรื่องเดียวนี้ก็น่าสนใจแล้ว หากใครอยากรู้ว่าท่านใช้เหตุผลว่าอย่างไร ก็ลองหาซื้อมาอ่านดู


๒.ปานมณีรุ้ง

เป็นการรวมบทกวีนิพนธ์คัดสรรของศิลปินแห่งชาติจำนวน ๙ ท่าน ได้แก่ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล, อังคาร กัลยาณพงศ์,อุชเชนี,เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, ทวีปวร,สุจิตต์ วงษ์เทศ,ประยอม ซองทอง,พนม นันทพฤกษ์ (สถาพร ศรีสัจจัง) และศาสตราจารย์เกียรติคุณมณี พยอมยงค์ โดยมีบทความเชิงคำนำที่ชื่อว่า“ศิลปินแห่งชาติมองชีวิตและสังคมผ่านดวงตาที่สาม”โดยอ.ชมัยภร แสงกระจ่างที่ได้บอกไว้ว่าผลงานกวีนิพนธ์ของศิลปินแห่งชาติทั้ง ๙ ท่าน รวม ๕๔ บทที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ เป็นผลงานที่กวีได้กลั่นกรองสร้างสรรค์ออกมาตามแรงบันดาลใจ สุดแต่ว่าจะอยู่ในจังหวะใดของชีวิต อาจจะมีพ้องกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ทั้งเนื้อหาสาระและรูปแบบ ได้ถ่ายสะท้อนให้เห็นภาพสังคมไทยอย่างชัดเจน อาจารย์ว่ากวีเหล่านี้ล้วนมีดวงตาพิเศษที่เรียกว่าตาที่สามทำให้สามารถมองทะลุไปสู่ความเข้าใจชีวิต ดังนั้น ภาพตัวตน สังคมและชีวิตจึงปรากฏให้นักอ่านได้สัมผัสและเรียนรู้ได้อย่างไม่รู้จบจึงเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักการศึกษา ครู ปัญญาชน ตลอดจนกวีนักเขียนและนักอ่านรุ่นหลังต่อไป เช่น บทกวีของม.ล.ปิ่น มาลากุลที่ว่า

อันอำนาจใดใดในโลกนี้ ไม่เห็นมีเปรียบปานการศึกษา
สร้างคนหาค่ามิได้ในโลกา ขึ้นจากผู้ที่หาค่าไม่มี

เป็นการสะท้อนให้เห็นความลุ่มลึกในความคิดเรื่องการศึกษาโดยใช้บทกวีเป็นเครื่องมือในการสอนและให้กำลังใจครูในยุคที่การศึกษาเป็นงานท้าทายผู้บริหารประเทศ แม้จะใช้ภาษาเรียบง่าย แต่ก็ทรงพลัง หรือจะเป็นบทกวีของอุชเชนีที่สะท้อนความมีพลังของมนุษย์ ที่ชัดเจน กล้าหาญและไม่อ่อนข้อต่ออุปสรรคใดๆ เช่น บท“เราชุบด้วยใด?”ที่ว่า

ก้าวไปแม้ไฟล่มโลก ก้าวไปแม้โชคดับสูญ
ก้าวไปแม้ไร้คนทูน ก้าวไปแม้พูนคนชัง

3. นวนิยายเป็นการรวมบทวิจารณ์นวนิยาย ๑๓ เรื่องของศิลปินแห่งชาติ ๑๓ คน

โดยอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ เรื่องบุญบรรพ์ ของศรีฟ้า ลดาวัลย์(อรพินท์ คำสอน-วิจารณ์) รัตนโกสินทร์ ของว.วินิจฉัยกุล(ผศ.ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร-วิจารณ์) ลูกทาส ของรพีพร(รศ.บุปผา บุญทิพย์-วิจารณ์) สี่แผ่นดินของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช(รศ.จักรกฤษณ์ ดวงพัตราและผศ.ดร.สายวรุณ น้อยนิมิตร-วิจารณ์) จดหมายจากเมืองไทยของโบตั๋น (ชมัยภร แสงกระจ่าง-วิจารณ์) บ้านทรายทองของก.สุรางคนางค์(ผศ.ดร.สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์-วิจารณ์) ลูกอีสาน ของ คำพูน บุญทวี(ผศ.ดร.ถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล-วิจารณ์) ปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงศ์(รศ.ทิพย์สุเนตร อนัมบุตร-วิจารณ์) เสเพลบอยชาวไร่ และผู้มียี่เกในหัวใจของ’รงค์ วงษ์สวรรค์(ผศ.ธัญญา สังขพันธานนท์-วิจารณ์) สารวัตรเถื่อน ของพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร(รศ.ประพนธ์ เรืองณรงค์-วิจารณ์) คำพิพากษา ของชาติกอบจิตติ(รศ.ดร.สรณัฐ ไตลังคะ-วิจารณ์) ข้ามสีทันดร ของกฤษณา อโศกสิน(ชมัยภร แสงกระจ่าง-วิจารณ์) และศิวา-ราตรี ของพนมเทียน(ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์-วิจารณ์) ซึ่งในเล่มนี้ ไพลิน รุ้งรัตน์ได้เสนอบทความกึ่งคำนำเรื่อง“ภาพสะท้อนสองศตวรรษรัตนโกสินทร์ ผ่านนวนิยายฝีมือศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์”ที่เป็นการเกริ่นนำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงสภาพสังคมที่สะท้อนอยู่ในนวนิยายแต่ละเรื่องก่อนที่จะได้อ่านบทวิจารณ์ที่นักวิชาการวรรณกรรมจะวิเคราะห์ด้วยมุมมองและทัศนะอันแตกต่างกันออกไป

อันจะทำให้ผู้อ่านได้ทราบว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่ในนิยายดังๆ เหล่านี้บ้างซึ่งนอกจากจะทำให้เราอ่านนิยายเหล่านี้ได้อย่างมีอรรถรสแล้วยังทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น