จำหน่าย โดโลไมท์ ,ฟอสเฟต (4%-11%)

หน้าแรก » อื่นๆ » ประกาศที่ไม่รู้จะลงหมวดหมู่ไหน

จำหน่าย โดโลไมท์ ,ฟอสเฟต (4%-11%)

แบ่งปันให้เพื่อน



จำหน่าย

-โดโลไมท์ 1300-1600 บาท/ตัน

-ฟอสเฟต (4%-11%) 2200-3500 บาท/ตัน



ประโยชน์ของโดโลไมท์



-ใช้เป็นหินก่อสร้างหรือหินประดับ

-ใช้ในอุตสาหกรรมทำปูนซีเมนต์บางชนิดใช้เป็น Refractory linings

-ใช้ในอุตสาหกรรมทำเตาถลุงเหล็กอุตสาหกรรมถลุงเหล็กและในการถลุงเหล็กแบบของอังกฤษ

-ใช้ในอุตสาหกรรมทำกระจกแก้วบางชนิด เช่น พวกแก้วแผ่น (Special glass) เป็นต้น

-ใช้ในอุตสาหกรรมกระบวนการทำกระดาษ

-ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา และงานเซรามิค

-ใช้ในการเกษตร เพื่อปรับสภาพดิน ให้มีสภาพที่สมบูรณ์ โดยเพิ่มธาตุอาหารหลักแก่พืช ธาตุไนโตรเจฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม

-ใช้ในการประมง เพื่อปรับสภาพน้ำในบ่อกุ้ง โดยเปลี่ยนค่า PH ในน้ำ ช่วยให้กุ้งลอกคราบเร็วขึ้น



ประโยชน์โดโลไมท์ต่อการเกษตร

โดโลไมท์เป็นทรัพยากรธรรมชาติ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและสัตว์น้ำช่วยในการปลูกพืช ปรับสภาพน้ำ ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ช่วยในการเจริญเติบโตใช้ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีได้ถึง กว่า 50% ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรส่วนประกอบสำคัญ : แคลเซียม ไม่ต่ำกว่า 35 %แมกนีเซียม ไม่ต่ำกว่า 20%นอกจากนี้ยังประกอบด้วยแร่ธาตุ ซิลิกอน, โซเดียม, โปรแทสเซียม, เหล็ก, แมงกานีส, ทาลิเนียม, ฟอสฟอรัสฯลฯทำมาจากหินฟอสเฟตจากธรรมชาติ ที่มีชื่อทางการว่าโดโลไมท์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทางหน่วยงานในภาครัฐมีการรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาใช้ เพราะนอกจากจะเป็นการปรับปรุงบำรุงดิน-น้ำโดยวิธีธรรมชาติแล้ว ทำให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายจากเดิมได้มากขึ้น คุณสมบัติในดิน- ช่วยเสริมสร้างส่วนที่เป็นดอก การผสมเกสร และการติดเมล็ด เร่งสร้างความเจริญเติบโต และให้ผลผลิตของพืช- เพิ่มภูมิต้านทาน เสริมต้นพืชให้แข็งแรง ทนต่อสภาพแวดล้อม และโรคแมลงต่างๆ- ควบคุมค่า pH


1. ให้ธาตุอาหารหลักแก่พืช โดโลไมท์ มีส่วนประกอบของธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม

2. ให้ธาตุอาหารรองแก่พืช นอกจากจะมีธาตุอาหารหลักแล้ว จากการส่งตรวจวิเคราะห์ยังพบธาตุอาหารรอง ได้แก่ ธาตุแคลเซียม(Ca) แมกนีเซียม กำมะถัน(Mg) รวมทั้งธาตุอาหาร เสริมที่จำเป็นแก่พืช อาทิ เหล็ก แมงกานิส ทองแดง และสังกะสีอีกด้วย

3. ปรับปรุงบำรุงดินให้ร่วนซุย โดโลไมท์เป็นแร่ที่มีลักษณะพรุน ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้จุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พืชผลก็จะได้คุณภาพที่ดี

4. ปลดปล่อยธาตุอาหารในดิน ดินที่ถูกตรึงธาตุอาหารไว้ เนื่องจากการใช้ปุ๋ยเคมีมาเป็นเวลานานและทำให้ปุ๋ยเคมีสะสมในดินเป็นจำนวน มาก จะทำให้รากพืชสามารถดูด และนำพาปุ๋ยที่สะสมในดินไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด

5. แก้ปัญหาสภาพดิน สภาพดินเปรี้ยว ดินพรุน ดินดาน ดินเสื่อมโทรม และดินที่ใช้ทำการเกษตรมาเป็นเวลานานๆ สามารถปรับสภาพดินให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการทำการเกษตร ส่งให้ผลผลิตที่ได้รับมีคุณภาพสูงสุด

6. ป้องกันและแก้ปัญหาพืชโตช้า แคระแกร็น ใบเหลือง ใบซีด ใบหงิกงอ ดอกผลร่วง ผลมีขนาดเล็ก รูปทรงผิดส่วน ผลผลิตตกต่ำ ใช้โดโลไมท์ ซึ่งเป็นแร่ธรรมชาติปรับสภาพดิน จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผลได้ดี

7. พืชสามารถนำธาตุอาหารต่างๆ รวมถึงอินทรียวัตถุที่มีในโดโลไมท์ไปใช้ประโยชน์ได้ทันที เพราะมีการย่อยสลายที่สมบูรณ์



อัตราการใช้สารโดโลไมท์

1.ยางพารา รองก้นหลุมประมาณ 1-2 ขีด อายุ 1-6 ปี ใส่ประมาณ 1 กิโลกรัม/ต้น อายุ 7 ปี ขึ้นไป ใส่ประมาณ 2 กิโลกรัม/ต้น หมายเหตุ ยางหน้าตายให้ใส่ 5 กิโลกรัม/ต้น (หลังจาก 4 เดือนจะมีน้ำยางให้กรีดตลอดทั้งปี)
2. ต้นไม้ยืนต้นและไม้ผลทุกชนิด ให้รองก้นหลุมประมาณ 2-3 ขีด อายุ 1-5 ปี ใส่ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ผลไม้ที่ออกผลแล้ว และไม้ผลที่มีปัญหาให้ใส่ตามอายุอัตราส่วน 1 ปี : 1 กิโลกรัม หมายเหตุ กรณีต้นลองกองหรือไม้ผลเป็นโรคหนอนชอนเปลือก(ICU) ให้ใส่ปุ๋ย 10-15 กิโลกรัม (แล้วแต่ขนาดต้น)เห็นผลภายใน 4 เดือน
3. การปลูกผักทุกชนิด รองก้นหลุม 1-2 ขีด ใส่ช่วงออกดอก-ผล อีกครั้ง เพื่อให้ดอกไม่ร่วงและผลใหญ่-โต หมายเหตุ ใส่ปุ๋ยดินแร่ฯ โดโลไมท์ จะป้องกันแมลงกินใบ โดยไม่ต้องกางมุ้ง(ผักปลอดสารพิษ 100%) ภายใน 4 เดือน สามารถรีดใหม่ได้และยังเพิ่มน้ำยางกว่าเดิมถึง 40%ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีในดินแร่ธรรมชาติโดโลไมท์ จะไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เช่น หน้ายางตาย หนอนชอนเปลือก โรครากเน่าฯลฯ ให้กลับมาเหมือนเดิมโดยไม่ต้องโค่นทิ้งเพื่อปลูกใหม่และมีธาตุอาหารหลายชนิด เพื่อไปบำรุงต้นไม้ให้แข็งแรงสมบูรณ์

4.นาข้าว ก่อนปักดำ ใช้หว่านให้ทั่วพื้น 1 ตัน/ไร่





ประโยชน์โดโลไมท์ต่อการประมง



1.ปรับสภาพดินพื้นบ่อ และหว่านขอบบ่อ บ่อใหม่ ใช้ 1.5 ตัน/ไร่ หว่านให้ทั่วพื้นและขอบบ่อ ตากทิ้งไว้ 5-7 วัน บ่อเก่า ใช้ 1.0 ตัน 1.0 ตัน/ไร่ หว่านให้ทั่วพื้นและขอบบ่อ ตากทิ้งไว้ 2-3 วัน
2.ปล่อยน้ำเข้าบ่อ ให้ระดับความลึก 30-50 ซ.ม. เพื่อที่จะสร้างแพลงก์ตอนละสาหร่าย ซึ่งเป็นอาหารของสัตว์น้ำ ทิ้งไว้ 5-7 วัน
3.เมื่อเริ่มมีสีเขียวมากขึ้น จึงปล่อยน้ำเข้าบ่อเพิ่มให้ระดับความลึก 1.0-1.5 เมตร ทิ้งไว้ 3-5 วันจึงนำสัตว์น้ำปล่อยลงบ่อ สภาพของน้ำควรมีค่า pH 7.0-9.0หากค่า pH 7.5-8.0 ควรใส่ 50-100 ก.ก/ไร่ ทุก 2 สัปดาห์เพื่อปรับสภาพน้ำให้คงที่อยู่เสมอ







ประโยชน์ของฟอสเฟต

แร่ฟอสเฟต ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมปุ๋ย นอกจากนั้นใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ผงซักฟอก ยาสีฟัน ยาฆ่าแมลง วัสดุไฟฟ้า อุปกรณ์ขัดถู วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ ไม้ขีดไฟ ยารักษาโรค การกลั่นน้ำมัน และในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า

ฟอสเฟตในอาหาร

สารประกอบฟอสเฟตเป็นสารที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายๆชนิดเช่น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตนม ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โดยการผลิตสารประกอบฟอสเฟตนั้นสามารถผลิตได้จากกระดูกสัตว์ หินฟอสเฟต หรือปฏิกิริยาระหว่างไอออนของโลหะกับกรดฟอสฟอริก ซึ่งสารประกอบฟอสเฟตนั้นได้รับการรับรองในเป็นส่วนประกอบของอาหารที่ปลอดภัย(GRAS; Generally Recognized as Safe) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในประเทศไทยตามประการของกระทรวงสาธารณสุข (2547) นั้นได้มีการกำหนดปริมาณของสารประกอบฟอสเฟตสูงสุดที่สามารถใส่ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมัก เช่น ไส้กรอก กุนเชียง แฮม และขาหมูรมควันไว้ที่ 3000 มิลลิกรัม ต่อผลิตภัณฑ์ 1กิโลกรัม โดยวัตถุประสงค์ของการใส่สารประกอบฟอสเฟตในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อ

ประโยชน์ของฟอสเฟตต่ออุตสาหกรรมอาหาร

1. ทำสีของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ให้มีความคงตัว

2. เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ได้นั้นมี รสสัมผัสที่นุ่มและมีความชุ่มฉ่ำมากขึ้น

3. ป้องกันการเกิดกลิ่นและรสชาติที่น่ารับประทาน โดยสารประกอบฟอสเฟตนั้นจะมีฤทธิ์ในการช่วยกันการหืนของอาหาร

4. ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

5. ลดปริมาณของโซเดียมคลอไรด์ที่ใช้ในกระบวนการแปรรูป



ประโยชน์ของฟอสเฟตต่อการเกษตร

ฟอสเฟตเป็นธาตุอาหารหลักชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อการเจริญต่อการเจริญเติบโตของพืช ความเป็นประโยชน์ของฟอสเฟตดินขึ้นกับ pH ของดิน เมื่อ pH ของดินต่ำกว่า 6.8 จะมีฟอสเฟตในรูปที่พืชดูดใช้ง่ายอยู่มาก แต่หาก pH ดินสูงกว่า 7.2 ฟอสเฟตจะอยู่ในรูปที่พืชดูดใช้ได้ยากเป็นส่วนใหญ่ การขาดฟอสเฟต ของพืชมีผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์อย่างมาก เช่นออกดอกช้า จำนวนดอกและเมล็ดน้อยลง ทั้งนี้เนื่องจากฟอสเฟตช่วยส่งเสริมการพัฒนาดอก ฟอสเฟตในดินได้มาจาก 2 แหล่งคือ การแปรสภาพของอินทรียวัตถุ และการสลายตัวออกมาอยู่ในสารละลายดิน เมื่อพืชดูดเอาไปใช้ ก็ทำให้เสียสมดุล ส่วนของฟอสเฟตที่เกาะติดอยู่ในดิน ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาแทน เพื่อรักษาสมดุล

ปุ๋ยฟอสเฟต เป็นปุ๋ยเคมีที่ให้ธาตุฟอสฟอรัสในรูปสารประกอบฟอสเฟต pH ของดินมีผลต่ออนุมูลของฟอสเฟต พบว่า pH ของดินในช่วง 5-8 ฟอสเฟตจะอยู่ในรูป H2PO4- (dihydrogen phosphate ion) และ HPO42- (hydrogen phosphate ion) pH ของดินต่ำกว่า 5 ฟอสเฟตจะอยู่ในรูป H3PO4 (กรดฟอสฟอริก) pH ของดินมากกว่า 8 ขึ้นไป ฟอสเฟตจะอยู่ในรูป PO43- (ฟอสเฟตไอออน) ในสภาวะดินในช่วง pH 5-8 ปุ๋ยฟอสเฟตในการช่วยเสริมการเจริญเติบโต และความแข็งแรงของพืชทั้งส่วนราก ลำต้น และใบ ตลอดจนการออกดอกออกผลการผลิตปุ๋ยฟอสเฟต ปัจจุบันนี้ใช้วัตถุดิบคือ หินฟอสเฟต (phosphate rock) หินฟอสเฟตในประเทศไทยมีมากในหลายจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด ลำพูน กาญจนบุรี เพชรบูรณ์ และราชบุรี หินฟอสเฟตจากแหล่งดินดังกล่าวมีฟอสฟอรัสคิดเป็นปริมาณของ P2O5 อยู่ร้อยละ 20-40 โดยมวล จึงมีการนำหินฟอสเฟตที่บดละเอียดแล้วใส่ลงในดินเพื่อใช้เป็นปุ๋ยโดยตรง แต่หินฟอสเฟตละลายน้ำได้น้อยมาก พืชจึงนำฟอสฟอรัสไปใช้ประโยชน์ได้น้อยมาก ทำให้ต้องใช้หินฟอสเฟตในปริมาณมากซึ่งไม่คุ้มค่า จึงมีการนำหินฟอสเฟตมาใช้ผลิตปุ๋ยฟอสเฟต

ใช้เป็นวัตถุดิบบำรุงดิน ใช้ผสมปุ๋ยอินทรีย์รองก้นหลุม ช่วยให้พืชออกรากมาก โตเร็วขึ้น ลดความเป็นกรดในดิน ช่วยเพิ่มแร่ธาตุในดินที่ละลายได้ให้มากขึ้นหินฟอสเฟต (Rock Phosphate) คือสารประกอบแคลเซียมฟอสเฟต เป็นหินแร่ที่เมื่อขุดออกมาบดละเอียดแล้วก็สามารถใช้เป็นวัตถุดิบบำรุงดินได้ดี เปอร์เซ็นต์ของฟอสเฟตอาจมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์จนถึง 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ จากการวิเคราะห์เมื่อนำมาใส่ลงดิน พอดินชุ่มชื้นจะเกิดการละลายออกมาใช้ได้ทันที 1 ใน 10 ของทั้งหมด

อย่างไรก็ตามฟอสเฟตส่วนที่เหลือยังจะค่อยๆ ละลายออกมาให้พืชได้ใช้อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก, ปุ๋ยคอก และปุ๋ยอินทรีย์ต่างๆ ยิ่งปัจจุบันมีการแนะนำให้ใช้ปุ๋ยเหล่านี้ 10 ส่วน คลุกกับภูไมท์ 1 ส่วน ก็จะยิ่งทำให้ฟอสเฟต ในดินเปลี่ยนรูปละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น



วิธีการใช้


ใช้ผสมปุ๋ยอินทรีย์รองก้นหลุมหรือใส่แปลงผักตั้งแต่เตรียมดิน ช่วยให้พืชออกรากมากโตเร็ว
ลดความเป็นกรดของดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย เพิ่มแร่ธาตุในดินที่ละลายได้ให้มากขึ้น
ผลพลอยได้ คือ จุลธาตุต่างๆ ที่ตกค้างในดินสามารถละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น
ใช้ในอัตรา 20-50 กก ./ ไร่
ถ้าดินเป็นด่างอยู่แล้วไม่ควรใส่หินฟอสเฟต และปูนต่างๆ


 


ราคา: 1,300-3,600 ต้องการ: ขาย/ให้เช่า/แลก
ติดต่อ: ทนงค์ ภูศรีอีเมล์: 
สภาพ: ใหม่ จังหวัด: นครปฐม
โทรศัพย์: 080-9494990 , 086-6170253IP Address: 182.53.94.24

คำค้น: 



ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ

[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]





ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)

รูป   รายละเอียด ราคา
 
 
 
 
 
 
  400 /ผืน
  10,000 บาท
  0 บาท
  690 บาท
  1,155 บาท
 
  12 บาท
 
  0 บาท
 
  390 บาท
  10,000 บาท