NIKON D-5000 กล้อง D-SLR ขนาด 12 ล้านพิกเซล ((( พร้อมเลนส์ AF-S 18-135 ตัวแพง ไม่ใช่ 18-55 ที่ขายติดมากับกล้อง ))) จอ LCD กางออกได้ หมุนไปมาได้ มองภาพก่อนถ่ายแบบ Live View ถ่ายภาพต่อเนื่องได้รวจเร็ว ปรับสีภาพได้หลากหลาย มีระบบกำจัดฝุ่น กระเป๋าพร้อมอุปกรณ์

ขายกล้อง NIKON D-5000 กล้อง D-SLR คุณภาพสูง ยอดนิยม ให้สีและความคมชัดสูง จอ LCD รุ่นนี้ กางออกหมุนซ้าย-ขวาได้ มองภาพก่อนถ่ายแบบ LIVE VIEW ได้ มีระบบกำจัดฝุ่น
กล้อง NIKON D-5000 ตัวนี้ มาพร้อมเลนส์ NIKON AF-S 18-135 ......รุ่นแพง ไม่ใช้ตัว KIT 18-55 ที่มีราคาถูกว่ามาก อย่าเที่ยบราคาผิดนะครับ แค่เลนส์เขาขายกันก็ 7000 บาทแล้ว
กล้องสภาพยังสวย ใช้งานน้อย ไม่มีเสียหรือตกหล่นมาก่อน มาชมและทดสอบการใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย ราคาแบบนี้ถูกมากแล้ว

รายละเอียดของกล้องรุ่นนี้ จากหนังสือชัดเตอร์โฟโต้
นิคอนเปิดตัวกล้อง DSLR รุ่นใหม่ Nikon D5000 ซึ่งเมื่อฟังดูในครั้งแรกๆ เข้าใจว่าเป็นกล้องรุ่นเล็กสุดต่อจาก D60 แต่กลับถูกวางตัวให้เป็นกล้องที่อยู่ระหว่าง Nikon D60 และ Nikon D90 ตัวกล้องออกแบบให้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่มีการใช้งานที่ไม่ยุ่งยากเช่นเดียวกับ D60 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการกล้องถ่ายภาพขนาดเล็ก มีความละเอียดและประสิทธิภาพการทำงานสูง

Nikon D5000 ใช้เซ็นเซอร์รับภาพฟอร์แมท DX แบบ CMOS ขนาด 23.6 X 15.8 มม. ให้ความละเอียดสูงถึง 12.3 ล้านพิกเซล โดยมีความโดดเด่นคือ สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยคุณภาพระดับ High Definition เช่นเดียวกับรุ่น D90 มีขนาดไฟล์ 1280 x 720 พิกเซลที่ความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที และปรับลดคุณภาพของไฟล์ได้อีก 2 ระดับ คือ 640 x 424 และ 320 x 216 พิกเซลที่ความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาทีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งความโดดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือ จอมอนิเตอร์ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 230,000พิกเซล ที่สามารถปรับหมุนและพับขึ้นลงได้ 180 องศา ซึ่งนับเป็นกล้องดิจิตอล SLR ตัวแรกของนิคอน ที่สามารถปรับหมุนจอมอนิเตอร์ได้ ช่วยให้ถ่ายภาพในมุมต่ำ มุมสูง หรือมุมที่มอง

ตามปกติได้ลำบาก และแสดงภาพแบบ Live View ได้เช่นเดียวกับรุ่น D90 โดยเลือกโหมดโฟกัสภาพได้แบบ Contrast-detect AF, แบบ Face Detection และโฟกัสติดตามวัตถุที่มีการเคลื่อนที่ รวมทั้งเลือกพื้นที่โฟกัสได้แบบธรรมดา และแบบมุมกว้าง

Nikon D5000 ใช้เซ็นเซอร์โฟกัสแบบ Multi-CAM 1000 มีจุดโฟกัส 11 จุด แบบเดียวกับ D90 ครอบคลุมภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้การโฟกัสรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องใช้งานร่วมกับเลนส์ที่มีมอเตอร์โฟกัสในตัว อย่างเช่นเลนส์ AF-S หรือ AF-I เพราะตัวบอดี้ของ D5000 ไม่มีมอเตอร์หมุนปรับโฟกัสเช่นเดียวกับรุ่น D60 นั่นเอง

ส่วนเลนส์ Type G หรือ D รองรับการใช้งานทุกฟังก์ชั่น ยกเว้นออโต้โฟกัส, เลนส์ AF รุ่นอื่นๆ รองรับการใช้งานทุกฟังก์ชั่น ยกเว้นระบบวัดแสง 3D color matrix II และออโต้โฟกัส, เลนส์ไม่มี CPUต้องใช้โหมดบันทึกภาพแบบ M และใช้ระบบวัดแสงไม่ได้

โหมดถ่ายภาพของ Nikon D5000 มีให้เลือกใช้งานได้ครบครันทั้งแบบออโต้ โปรแกรมสำเร็จรูป Scene Mode และโหมดถ่ายภาพในกลุ่มของ Advance Zone อาทิ โหมดโปรแกรม (P), โหมดออโต้รูรับแสง (S), โหมดออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (A) และโหมดแมนนวล (M) โดย Scene Mode นั้นมีให้เลือกใช้งานกว่า 19 แบบ พร้อมทั้งฟังก์ชั่น D-Lighting ที่ช่วยแก้ไขส่วนมืดของภาพให้คงราย

ละเอียดอยู่อย่างครบถ้วน โดยฟังก์ชั่นนี้จะทำการเฉลี่ยค่าแสงในโทนมืดและโทนสว่างของภาพให้อย่างสมดุลย์ และยังคงรายละเอียดในส่วนสว่างและส่วนมืดอย่างครบถ้วน ช่วยให้ภาพที่ออกมามีการไล่โทนที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งกล้องสามารถคำนวณส่วนสว่างและส่วนมืดของภาพโดยอัตโนมัติ

แม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงที่ยุ่งยากก็ตาม ซึ่งฟังก์ชั่น D-Lighting นี้เลือกการทำงานได้หลายขั้นตั้งแต่ Extra High, High, Normal, Low, Auto หรือปิดการใช้งาน สำหรับภาพบางกรณีที่ต้องการคอนทราสท์ของภาพสูง

Nikon D5000 ปรับรูปแบบของภาพ หรือ Picture Control ได้ 6 แบบคือ Standard, Neutral, Vivid, monochrome, Portrait และ Landscape แต่ละแบบสามารถปรับเพิ่มหรือลดความเข้มของโทนภาพ ได้ +/- 2 ระดับ และเพิ่มหรือลดความคมชัด คอนทราสท์ ความสว่างของภาพ สีสันของ

ภาพ ความเข้มของสี และโทนภาพได้ รวมทั้งปรับตั้งด้วยตนเอง (Custom) ได้อีก 1 แบบ ความไวแสงปรับได้กว้างตั้งแต่ ISO200-3200 และสามารถปรับขยายได้เป็น ISO100 ถึง ISO6400 ช่วยให้บันทึกภาพในสภาพแสงน้อยได้เป็นอย่างดี การทำงานของกล้องมีความรวดเร็วขึ้นจากประสิทธิภาพ

ของหน่วยประมวล EXPEED และมี noise ต่ำถึงแม้จะถ่ายภาพที่ความไวแสงสูงก็ตาม การถ่ายภาพต่อเนื่องทำได้รวดเร็วขึ้น โดยถ่ายได้ด้วยความเร็ว 4 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่องสูงถึง 100 ภาพ (คุณภาพ JPEG Normal)

ระบบวัดแสงของ Nikon D5000 เป็นแบบผ่านเลนส์ระบบ 3D Color Matrix II ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงแบบ 420-pixel RGB sensor เลือกระบบวัดแสงได้แบบทั่วทั้งภาพ แบบเฉลี่ยกลางภาพ และแบบเฉพาะจุด ซึ่งมีพื้นที่วัดแสง 2.5% และสัมพันธ์กับจุดโฟกัสที่ใช้ด้วย ทางด้านไวท์บาลานซ์เลือกปรับ

ใช้งานได้แบบออโต้ และเลือกตั้งให้เหมาะตามสภาพแสง โดยเลือกได้ 6 แบบ คือ Direct sunlight, Cloudy, Fluorescent, Incandescent, Flash, Shade และปรับแบบ Preset เพื่อกำหนดค่าไวท์บาลานซ์ตามสภาพแสงในขณะนั้น รวมทั้งสามารถถ่ายภาพคร่อมไวท์บาลานซ์ได้แตกต่างกัน 3 รูปแบบด้วย

เนื่องจาก Nikon D5000 ไม่มีจอ LCD สำหรับแสดงผลที่ตัวกล้อง จึงต้องใช้การแสดงผลการทำงานที่จอมอนิเตอร์แบบเดียวกับ D60 และเลือกการปรับตั้งเมนูการทำงานต่างๆ ด้วยปุ่มปรับ 4 ทิศทาง ซึ่งการแสดงผลที่จอมอนิเตอร์ สามารถเลือกได้ 2 แบบ การปรับตั้งเมนูการทำงานต่างๆ ทำได้โดย

การกดปุ่ม “ i ” ที่ด้านข้างจอมอนิเตอร์ และใช้ปุ่มปรับ 4 ทิศทางเพื่อเลือกเมนูที่ต้องการ นอกจากการตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพแล้ว ถ้าหากว่าภาพที่ถ่ายออกมานั้นยังไม่สมบูรณ์ ผู้ใช้ก็สามารถปรับแก้ไขค่าที่ตั้งไว้เพื่อถ่ายใหม่ได้ โดยกล้องจะแสดงให้เห็นภาพของค่าที่ต้องการแก้ไข เพื่อช่วยให้ปรับแก้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้นด้วย

Nikon D5000 มีแฟลชขนาดเล็กในตัวแบบป๊อบอัพ ไกด์นัมเบอร์ 12 ที่ ISO 100 ซึ่งทำงานอัตโนมัติถ้าหากว่าแสงไม่พอเมื่อถ่ายภาพในโหมดออโต้และ Scene Mode แต่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือเปิดการมใช้งานได้ด้วยปุ่มควบคุมด้านข้างหัวกระโหลกกล้อง และแฟลชป๊อบอัพไม่สามารถใช้ควบคุมการทำงานแฟลชภายนอกในระบบ wireless เหมือนกับ D90

Nikon D5000 มีอุปกรณ์เสริมให้ใช้งานหลายอย่าง อาทิ เลนส์ขนาดต่างๆ ตั้งแต่ฟิชอายไปจนถึงเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ แฟลชเฉพาะกิจรุ่น SB400, SB600, SB800 และ SB900 สายลั่นชัตเตอร์รุ่น MC-DC2 รีโหมทไร้สายรุ่น ML-L3 ระบบสัญญาณ GPS รุ่น GP-1 แต่ไม่มีแบตเตอรี่กริปให้ใช้งานเหมือนรุ่น D90 ราคาจำหน่ายพร้อมเลนส์ 18-55 มม. VR

Spec ของ Nikon D5000

ความละเอียดไฟล์ภาพ 12.3 ล้านพิกเซล
เซ็นเซอร์ภาพ CMOS sensorขนาด23.6 x 15.8 มม.
ระบบกำจัดฝุ่น Image Sensor Cleaning
ขนาดภาพ ภาพนิ่ง 4,288 x 2,848 พิกเซล, 3,216 x 2,136 พิกเซล, 2,144 x 1,424 พิกเซล, ภาพเคลื่อนไหว 1280 x 720 พิกเซล, 640 x 424 พิกเซล, 320 x 216 พิกเซลที่ความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที

ไฟล์ฟอร์แมท ภาพนิ่ง NEF (RAW), JPEG, NEF (RAW) + JPEG, ภาพเคลื่อนไหว AVI Motion-JPEG
เลนส์ที่ใช้งาน เลนส์ AF-S, AF-I รองรับการใช้งานทุกฟังก์ชั่น, เลนส์ Type G หรือ D รองรับการใช้งานทุกฟังก์ชั่น ยกเว้นออโต้โฟกัส, เลนส์ AF รุ่นอื่นๆ รองรับการใช้งานทุกฟังก์ชั่น ยกเว้นระบบวัดแสง 3D color matrix II และออโต้โฟกัส, เลนส์ไม่มี CPUต้องใช้โหมดบันทึกภาพแบบ M และใช้ระบบวัดแสงไม่ได้

ความเร็วชัตเตอร์ 1/4,000 ถึง 30 วินาที แบ่งละเอียดขั้นละ 1/3 หรือ 1/2 EV และ B (Bulb), สัมพันธ์กับแฟลช1/200 วินาที หรือต่ำกว่า
ถ่ายภาพต่อเนื่อง ความเร็วสูงสุด4 ภาพต่อวินาที
ถ่ายภาพหน่วงเวลา เลือกได้จาก 2, 5, 10 หรือ 20 วินาที
ระบบวัดแสง TTL ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงแบบ 420-pixel RGB

โหมดวัดแสง 3D color matrix metering II, Center-weighted และ Spot
ระบบบันทึกภาพ Auto, Scene Modes (Portrait, Landscape, Sports, Close-up, Night Portrait), โปรแกรม (P), ออโต้รูรับแสง (S), ออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (A) และแมนนวล (M)
ชดเชยแสง +/-5 EV แบ่งละเอียดขั้นละ 1/3 หรือ 1/2 EV

ความไวแสง ออโต้ และปรับเอง ISO 200 - 3200 ปรับขยายเป็น 100 และสูงสุด 6400 ได้
ออโต้โฟกัส โมดูล Nikon Multi-CAM 1000 แบบ TTL phase detection จุดโฟกัส 11 จุด พร้อมไฟช่วยหาโฟกัส
แฟลชในตัว แบบป๊อบอัพไกด์นัมเบอร์ 12ที่ ISO 100
โหมดแฟลช ระบบ i-TTL,เลือกการทำงานแบบสัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์ช้า, สัมพันธ์กับม่านชุดแรกและชุดที่สอง, แก้ตาแดง และสัมพันธ์กับชัตเตอร์ช้าพร้อมแก้ตาแดง
ชดเชยแสงแฟลช -3 to +1 EV

ไวท์บาลานซ์ Auto, ปรับตามสภาพแสง 6 แบบ และ Preset
โหมด Live View AF modes Face priority AF, wide Area AF, Normal Area AF
จอมอนิเตอร์ ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 230,000 พิกเซล พร้อมปรับหมุนได้หลายระดับ
เมมโมรี่การ์ด SD Card หรือ SDHC Card
การเชื่อมต่อ USB 2.0 Hi-Speed, ช่อง HDMI
สัญญาณโทรทัศน์ NTSC และ PAL

แบตเตอรี่ Lithium-Ion EN-EL9e
ขนาด 127 x 104 x 80 มม.
น้ำหนัก 560 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)