ทรีมเม้นท์ผิวหน้า & ผิืวกายขาวใส สำหรับท่านที่หน้าหมองคล้ำมาก มีรอยดำ และสีผิวไม่เรียบ ผิวกายคล้ำ สีผิวไม่เท่ากันค่ะ

หน้าแรก » แฟชั่น และ เครื่องสำอาง » เครื่องสำอางอื่นๆ

ทรีมเม้นท์ผิวหน้า & ผิืวกายขาวใส สำหรับท่านที่หน้าหมองคล้ำมาก มีรอยดำ และสีผิวไม่เรียบ ผิวกายคล้ำ สีผิวไม่เท่ากันค่ะ

แบ่งปันให้เพื่อน



ร้านผิวสวย ขาวใส
www.phew-d.com
http://www.phew-d.com
สำหรับที่ผิวหมองคล้ำ มีรอยดำสิว ผิวไม่เสมอกัน
แวะดูรูปภาพได้ที่ เว็บด้านบนเลยค่ะ
ในหมวด ทรีทเม้ทน์ผลัดผิวขาวใส ผิวหน้า & ผิวกาย
รับรองผลค่ะ
น้ำยาลอกผิวร้าน ผิวสวย เป็นน้ำยาจากโรงงานผลิตยา เป็นตัวน้ำยาที่แพทย์ใช้กัน เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดจาก
โรงงานผู้ผลิต ไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับร้านอื่นได้ค่ะ
ข้อแตกต่างของน้ำยาลอกผิวร้านผิวสวย และร้านอื่นๆ
1 น้ำยาของเรา ไม่ใช่ TCA ผสมน้ำ (น้ำยาที่เอาไว้แต้มหูด กระ) ไม่จำเป็นต้องทาทิ้งไว้ 12-24 ชม. ค่ะ
และอาบน้ำได้ตามปกติ (อยากสวยไม่ต้องซกมกค่ะ หุหุ) ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ผิวก้อแค่แห้ง ตึงๆ แค่นั้น
2 เวลาทา อาจมีอาการคันยิบและแดงบ้างเล้กน้อย ถ้าทาในปริมาณชุ่มมาก และหลายรอบ หรือบางราย
อาจไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ถึงกับปวดแสบปวดร้อน หน้าบวม หน้าแดงแน่นอน แม่ค้าพิถีพิถันมาก เพราะถ้าทำแล้ว
ทรมานก็ไม่อยากทำอีกแล้วค่ะ (แม่ค้าเคยใช้ของที่อื่น ก่อนเปิดร้านของตัวเอง แสบถึงขนาดต้องกระโดดๆ
ไปผึ่งแอร์เลยค่ะ ทรมานมาก ใช้ไปก็กลัวไป แต่แม่ค้าก้อใช้จนครบคอร์ส 3 ครั้ง เพราะเสียดายตังค์ หุหุ)
3 จริงๆแล้วการลอกผิว คือ การทาน้ำยาลอกผิว และล้างออก แค่นั้นค่ะ และรอให้มันลอก ไม่มีอะไรยุ่งยาก
หรือน่ากลัว ไม่จำเป็นต้องมีน้ำยาหรือครีมเปิดผิว ปิดผิวอะไรทั้งสิ้น เป็นการอัพราคาเท่านั้นค่ะ
4 ไม่บังคับขายยกเซ็ท ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมของแม่ค้าค่ะ แต่ขอให้บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ใช้ครีมที่ดีมี
สารอาหารผิวที่เหมาะสม (มิใช่สารปรอทนะจ๊ะ)เพื่อบำรุงผิวให้ขาวใสอย่างปลอดภัยในระยะยาว ควรทา
ครีมกันแดดทุกวัน ไม่ออกแดดก็ต้องทาค่ะ แล้วผิวของคุณจะสวยตลอดไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความ ถนอมผิวด้วยการลอกหน้า ค่ะ
น้ำยาลอกผิวร้านโหน่ง เป็นการลอกหน้าชนิดตื้นเท่านั้น
ซึ่งปลอดภัยกับทุกเฉดสีผิว ผลข้างเคียงน้อยมาก
ข้อควรระวังก่อนลอกหน้าด้วยสารเคมี (เป็นบทความที่ตัดมาให้อ่านจากแพทย์)
1. ประเมินลักษณะผิวเหี่ยวแก่จากแสงแดด ผู้ป่วยที่ยังมีสภาพผิวดี มีรอยเหี่ยวแก่จากแสงแดดน้อย มีการเปลี่ยนแปลง
ของสีผิวน้อย ไม่เหมาะจะลอกหน้าชนิดลึก เพราะก่อผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่ได้ ถ้าจะลอกควรลอกชนิดตื้น ส่วนผู้ที่มีภาวะผิว
แก่จากแสงแดดอย่างรุนแรง ผิวเหี่ยวย่นทั้งใบหน้าควรลอกชนิดลึก
2. ประเมินลักษณะสีผิว ผู้ป่วยที่มีผิวสีน้ำตาลเข้มหรือผิวดำ ไม่เหมาะต่อการลอกหน้าชนิดปานกลางและชนิดลึก
แต่อาจใช้การลอกหน้าชนิดตื้นได้
3. ถ้ามีประวัติการผ่าตัดเสริมสวยใบหน้ามาก่อน ควรรอให้แผลหายสนิทจึงลอกหน้า และต้องระวังในผู้ที่
เกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
4. ในการลอกหน้าชนิดลึกด้วยฟีนอล ต้องระวังเพราะเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติได้ แพทย์จะตรวจการทำงานของตับ ไต
สุขภาพทั่วไปก่อนลอก และตรวจคลื่นหัวใจระหว่างการลอก
5. ผู้ที่จะลอกหน้าต้องมีสุขภาพจิตดี
6. ประวัติการใช้ยา ผู้ที่กินยาคุมกำเนิดไม่ควรลอกหน้า เพราะยาคุมทำให้เป็นฝ้าอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้รอยคล้ำหลังลอกเข้ม
มากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่กินยาต้านการเกิดลิ่มเลือดไม่ควรลอกหน้าชนิดลึกเพราะมีเลือดไหลซึมจากผิวที่ลอกได้
7. ผู้ที่เคยเป็นเริมที่ใบหน้า แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัสเริม 2 วันก่อนลอก และให้ต่ออีก 5 วันหลังลอก เพื่อลดการกำเริบของเริม
8. ต้องระวังการลอกหน้าในผู้ที่กินยากรดวิตามินเอ อาจต้องหยุดยาครบ 6 เดือนจึงลอก นอกจากนั้นก็ต้องระวัง
ผู้ที่ฉายรังสีมาก่อน เพราะทั้ง 2 กรณีนี้ทำให้มีรูขุมขนน้อยลง ทำให้กระบวนการสร้างผิวใหม่ที่เกิดจากรูขุมขนเป็นไปได้ยาก
ผลแทรกซ้อน
การลอกด้วยสารเคมีทำให้เกิดผลแทรกซ้อนหลายอย่าง ได้แก่ ผิวเปลี่ยนสี รอยดำรอยไหม้ แผลเป็น การติดเชื้อแบคทีเรีย
การกำเริบของเริม และผิวแดง มักจางหายไปใน 30- 90 วัน
ถ้าเป็นมากแพทย์อาจให้ยาทาสเตียรอยด์อย่างอ่อน เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน ในบางรายมีสิวเห่อหลังลอกหน้า
มักเกิดในวันที่ 3-9 หลังลอก และอาจเกิดซีสต์ตุ่มขาวขนาดเล็ก (milia)
หลังลอกหน้าต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ทายากันแดด ถ้าผิวลอกเป็นขุยมากอาจทาครีมให้ความชุ่มชื้น ถ้ามีการติดเชื้อหรือการ
กำเริบของเริม ให้รีบกลับมาพบแพทย์
สิ่งที่ลุกค้าควรทราบก่อนทำผิว
1. ทดสอบอาการแพ้ก่อนการลอกผิว
ก่อนทำการลอก ควรทดสอบอาการแพ้โดยการทาน้ำยาบริเวณกราม แล้วทิ้งไปตามเวลาที่กำหนดจึงล้างออก รอดูผลประมาณ 3-7 วัน
หากไม่มีอาการคัน ผดแพ้ สามารถใช้น้ำยาได้ หากมีอาการคัน หรือผดแพ้ ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สามารถทาครีมแก้คัน
และรับประทานยาแก้คัน แก้แพ้ทั่วๆไปตามร้านขายยาได้ เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง เช่น อาการคัน จะหายไปเมื่อผิวลอกหมดแล้ว
2. บางคนอาจใช้เวลานานถึง 14 วันหลังจากทาน้ำยาไปแล้ว ผิวจึงจะเริ่มลอก หากทาน้ำยาไปแล้วหลายวันผิวยังไม่ลอก
ไม่ควรทาซ้ำบ่อยเกินไปเพราะน้ำยาที่ทาไปเมื่อรอบแรกนั้นได้ทำปฏิกิริยากับผิวหนังเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการหลุดลอกของเซลล์เท่านั้น
ควรจะใจเย็นๆ รอระยะเวลา จนถึง 14 วัน หากยังไม่ลอกจึงทาน้ำยาซ้ำอีกรอบ (แต่อาการผิวไม่ลอกไม่เคยพบในลูกค้าของเรา
มีแต่ลอกช้ากว่าปกติ) บางคนลอกเป็นแผ่นบางๆ บางคนลอกเป็นขุยๆ
3. การลอกผิวไม่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาหายคล้ำ เพราะอาการคล้ำใต้ตา นั้นมันดำจากข้างใน เป็นคนละส่วนกัน
ระวังบริเวณรอบดวงตา อย่าให้เข้าตา หากเข้าตาให้ล้างออกด้วยน้ำละอาดหลายๆรอบจนกว่าจะหายระคายเคืองหาก
ไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
4. ข้อเท็จจริง การลอกผิวไม่ได้ทำให้ผิวบางลง แต่เป็นการทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้น เป็นเพียงความรู้สึก
เท่านั้นที่ว่าผิวบางลง เพราะผิวจะไวต่อสารเคมี วิธีแก้คือ ให้ใช้ครีมที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายหรือ (Sensitive skin)
5. ความตั้งใจ+กำลังทรัพย์พร้อม ถึงแม้การลอกผิวด้วยตัวเองจะประหยัดกว่าทำในสปาหรือสถานเสริมความงามชั้นนำทั่วไป
ที่ได้บวกค่าบริการอันแสนแพง แต่ใช่ว่าจะไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งก็ยังถือว่าแพงกว่าซื้อครีมบำรุงผิวตามท้องตลาดทั่วไปอยู่ดี
และ สำหรับลูกค้าที่ต้องการ+ตั้งใจที่จะขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น จากผิวคล้ำ-ขาวเหลือง-ขาวใสอมชมพู ตามลำดับ ต้องทำผิว 3-6 ครั้ง
แล้วแต่สภาพผิวเดิม แนะนำ
ผิวขาวเหลือง แนะนำ ให้ลอกผิว 3-5 ครั้ง
ผิวคล้ำ/ผิวสีแทน แนะนำ ให้ลอกผิว 5-6 ครั้ง
ให้ตัดสินใจซื้อเป็นคอร์สเลยจะประหยัดกว่า หรือดูโปรโมชั่น แต่ละเดือน
แล้วไหนจะต้องทาครีมบำรุง ครีมกันแดดตลอด และถ้าอยากขาวตลอกก็ต้องบำรุงอย่างต่อเนื่อง (อันนี้รวมถึงคนที่ไม่เคย
ลอกผิว หรือผิวดีอยู่แล้วด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ผิวดี หากไม่ดูแลผิวก็สามารถเสื่อมสภาพได้) อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับ
ความตั้งใจจริงของลูกค้า
6. คนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือต้องตากแดดอยู่เป็นประจำ ไม่แนะนำให้ลอกผิว เพราะช่วงผิวลอก เป็นช่วงที่ผิวบอบบาง และไวต่อแสง
7. แล้วผิวจะขาวระดับไหน เมื่อทำผิวเสร็จ ครบคอร์สแล้ว ผิวจะขาวเท่ากับส่วนที่ขาวที่สุดของร่างกาย หรือ ขาวกว่านั้น
ขึ้นอยู่กับ จำนวนคร้งที่ลอก ลอกต่อเนื่องกันหรือไม่ ทาครีมไวเทนนิ่งเข้มข้นหรือไม่ กันแดดหรือไม่ ตอนลอกผิวเสร็จ
ผิวอาจดูไม่ขาวขึ้นมากนัก ให้ทาครีมซุปเปอร์ออร่าไปสักระยะ บำรุงไปเรื่อยๆ ผิวจะค่อยๆ ขาวขึ้นอย่างชัดเจน
(ไม่มีลอกผิวแล้วดำขึ้นแน่นอน ยกเว้นไปตากแดดเอง)
การลอกผิวครั้งแรกจะรู้สึกว่า สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รอยด่างดำจางลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น จะเห็นผลดีชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ในการ ลอกครั้งต่อๆไปอย่างต่อเนื่อง ผิวตัวลอกประมาณ 3-6 ครั้ง แล้วแต่ผิวและความต้องการของลูกค้า หลังจากลอกผิวครบตามจำนวนครั้งที่ต้องการให้ทาครีมซุปเปอร์ออร่า มีสารไวเทนนิ่งเข้มข้นมากที่สุด จะช่วยบำรุงผิวและทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันแดด SPF 60
8. การลอกผิว ครั้งต่อไป ต้องรอให้ผิวลอกหมดก่อนจึงลอกครั้งต่อไปได้ ซึ่งโดยปกติผิวกายจะลอกหมด ประมาณ 2-3 สัปดาห์
ผิวหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ อาจช้าหรือเร็วกว่านี้เล็กน้อยแล้วแต่ผิว อย่าทิ้งผิวไม่ไว้นานเกินไป ควรทำอย่างต่อเนื่องจนจบคอร์ส
ผิวจะขาวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สรุป ให้ทำผิว เดือนละ 1 ครั้ง เช่น เริ่มทำผิววันที่ 1 มิ.ย. ควรทำผิวครั้งต่อไป ประมาณ วันที่ 1 ก.ค. ช้าเร็ว ไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์
9. เมื่อขาวอยู่ตัวแล้ว ลูกค้าสามารถลอกผิวซ้ำอีกได้ 3-6 เดือน/ครั้ง หรือ ปีละ 1 ครั้ง ตามความต้องการของลุกค้า เพราะปัจจุบัน
ผิวต้องพบเจอกับมลภาวะต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผิวหมองคล้ำ เสื่อมสภาพ ไม่เปล่งปลั่ง การลอกผิวกายด้วยกรดบลุพีล เป็นการลอกผิวชนิดตื้น
คือการเร่งปฎิกิริยาการผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าที่เสื่อมสภาพลง ให้เกิดการหลุดลอกออกเท่านั้น ไม่ทำให้ผิวบางลง
10. แนะนำให้ลูกค้า ถ่ายรูปเปรียบเทียบกัน จะรู้สึกได้ด้วยตนเองอย่างชัดเจน
BLUE PEEL ลอกขาได้ประมาณ 2 ข้าง 1 ครั้ง ทาซ้ำได้ 2-3 รอบ
Green peel ลอกหน้าได้ประมาณ 2-3 ครั้ง ทาซ้ำครั้งละ 2-3 รอบ
BODY WHITE PEEL วิธีการลอกผิวกาย (BLUE PEEL)
1. 1.ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะลอกด้วยสบู่แครอท (สบู่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย) สัก 2-3 รอบ ให้ผิวออกตึงๆหน่อย
2. 2. เช็ดตัวให้แห้ง ใส่ถุงมือ (ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่มือลอกเฉยๆ) ให้เปิดฝาออกไปเลยค่ะ เอาสำลีซ้อน 2 แผ่นวางบนปากขวด
กระดก 3-4 ครั้งให้สำลีชุ่มพอประมาณ (ถ้าสำลีเริ่มดำ ให้เอาแผ่นบนกลับด้านสำลี ถ้าเริ่มดำอีก ให้เอาแผ่นบนออก
แล้วเอาแผ่นใหม่มารองใต้แผ่นเดิมได้เลย จะช่วยประหยัดน้ำยา+สำลี) แล้วเช็ดให้ทั่วบริเวณที่ต้องการลอก (เช็ดทั่ว 2-4 รอบ
ดูผิวว่ากร้านมาก-น้อย แล้วก็พอนะคะ น้ำยาเหลือเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้) เวลาเช็ดอาจมีอาการแสบร้อนบ้างเล็กน้อย แล้วแต่ผิว
บริเวณผิวกร้านๆ ให้เช็ดได้ 3-4 รอบ แล้วแต่ผิวว่ากร้านมาก กร้านน้อย โดยให้น้ำยาที่เช็ดรอบแรก ซึมลงไปให้หมดก่อนค่ะ
รอให้ผิวแห้ง (ไม่นานก็แห้งค่ะ) จึงลงน้ำยารอบ 2-4 ค่ะ บริเวณที่กร้าน เช่น เท้า หัวเข่า หน้าขา ข้อศอก ตาตุ่ม ก้น
เช็ดซ้ำได้ 2-4 รอบ
บริเวณที่บอบบาง ให้เช็ด 2-3 รอบ แล้วแต่ผิว เช่น ขอบบิกินนี่ รักแร้ ขาพับ ขาอ่อน ด้านข้างลำตัว ข้างด้านในแขนและขา เป็นต้น
วิธีเช็ดน้ำยาอย่างละเอียด
เวลาเช็ดช่วงลำตัวให้นอนจะสะดวกกว่า
เริ่มจากนอนคว่ำ เช็ดไล่ลงมาจาก คอ 2-3 รอบ –หลัง3-4 รอบ -ก้น3-5 รอบ –ขาส่วนบน 3-4รอบ -ขาส่วนล่าง 3-4 รอบ
ให้ดูตามความกร้านของผิว (ระวังตรงข้อพับ/ข้างลำตัว อย่าลงน้ำยาเยอะ อย่าเกิน 5 ครั้ง เพราะเป็นบริเวณที่บอบบาง
ถ้าข้างลำตัวลงตอนนอนคว่ำไปแล้ว ตอนนอนหงายไม่ต้องลงซ้ำ)
นอนหงาย เช็ดไล่ลงมา จาก คอ 2-3รอบ –ลำตัว 3-4 รอบ- ขาส่วนบน3-4 รอบ – ขาส่วนล่าง 3-5 รอบ–เท้า 3-4 รอบ
เช็ดแขน นั่งหรือนอน ตามสะดวก แขนด้านใน 2-3 รอบ ด้านนอก 3-4 รอบ ระวังตรงข้อพับอย่าลงเยอะ เพราะเป็นส่วน
ที่บอบบาง
3.ทาทิ้งไว้ 15-60 นาที ตามสภาพผิว หากผิวหยาบกร้านมากควรทิ้งไว้นานสักหน่อยแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
(ไม่ต้องฟอกสบู่) ใครทำก่อนนอน ไม่ได้ไปไหน ทาทิ้งไว้โดนไม่ต้องล้างออกก็ได้ไม่เป็นไร เช้ามาอาบน้ำฟอกสบู่ ตามปกติ
4. ควรงดทาครีมบำรุงผิวในคืนแรก และไม่ควรใส่เสื้อและกางเกงที่คับแน่นจนเกินไป เพราะอาจเสียดสี
และเกิดรอยดำได้ ควรหลบแดดและงดออกไปลัลล้ากลางแจ้งสักระยะ (ควรเปลี่ยนไปเที่ยวตอนกลางคืนแทน อิอิ)
5.ทาครีมกันแดดไม่จัด spf 30 , 40 ถ้าแดดจัด ๆ ป้องกันแดด ค่า spf 50 ขึ้นไปอย่าได้ขาด
6.ทางร้านไม่ได้ห้ามทาครีมบำรุงผิวระหว่างรอผิวลอก แล้วแต่ลูกค้าค่ะ คือเวลาผิวลอกมันจะแห้งและคัน
ลูกค้าท่านใดอยากให้ผิวลอกไวหน่อยก็ไม่ต้องทาครีมค่ะ ภายใน 7 วันแรก ถ้าทนคันไหว เพราะครีม
จะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ผิวจะแห้งน้อยลง บรรเทาอาการคัน ดังนั้นจึงทำให้ลอกช้าลงนิดหน่อยค่ะ
แต่ท่านใดจะทาก็ได้ค่ะ เพราะอย่างไรผิวก็ลอกอยู่แล้วค่ะ ไม่เคยเจอที่ไม่ลอก แค่ลอกช้าเท่านั้น
บางคน 7 วัน - 14 วัน
4. 7. แช่หรืออาบน้ำ ไปประมาณ 3-4 วัน ผิวจึงเริ่มลอก ใช้สบู่คลอโรฟิลล์ฟอกผิว ให้ถูนานๆ หน่อย จะเร่งผลัดเซลล์ผิวที่
เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออก น้ำอุ่นจะช่วยผลัดผิวให้เร็วขึ้น แนะนำให้อาบน้ำนานๆ ประมาณ 30 นาที ขึ้นไป
จะทำให้ผลัดผิวไวขึ้น(ผิวหนังกำพร้าจะนิ่ม/เปื่อย ทำให้หลุดลอกไวขึ้น อาบน้ำไปสัก 3-4วัน ตอนอาบน้ำให้ค่อยๆเอามือถูผิว
แบบขัดขี้ไคลเบาๆ จะช่วยผลัดผิวเร็ว ผิวจะหลุดลอกออกมาง่ายขึ้น คือเป็นการกระตุ้นให้ลอกเร็วอีกวิธีนึง แต่ให้ทำตอนอาบ/แช่ น้ำอุ่น
ประมาณ 15-30 นาทีไปแล้วตรงไหนไม่ออกไม่ต้องฝืน ให้ไปถูตรงที่ออกแทน ย้ำ! ให้ถูเบาๆ อย่าแรง เดี๋ยวเกิดรอยดำจากการเสียดสี)
5. เวลาผิวลอกจะมีอาการคัน แบบผิวแตกหน้าหนาว ห้ามเกา ถ้าคันมาก ให้เอามือลูบๆเอา ใครชอบเผลอเกาให้ตัดเล็บให้สั้นเลย
การทาครีม/โลชั่น จะช่วยบรรเทาอาการคันได้ ผิวจะเริ่มลอกประมาณ วันที่ 3-14 หลังจากลงน้ำยาไปแล้ว และลอกหมดประมาณ 2-3 สัปดาห์
6. ระหว่างลอกผิว ผิวชั้นหนังกำพร้า จะค่อยๆหลุดลอกออก ผิวใหม่จะเลื่อนขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวบอบบาง ไวต่อแสงแดด
ให้หลบแดดและทาครีมกันแดด SPF 40 ขึ้นไป อย่าได้ขาด
7. เวลาผิวลอกมันจะแห้งและคัน ลูกค้าท่านใดอยากให้ผิวลอกไวหน่อยก็ไม่ต้องทาครีม ภายใน 3 วันแรก ถ้าทนคันไหว
เพราะครีมจะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น แห้งน้อยลง บรรเทาอาการคันน่ะค่ะ
**แต่ห้ามเกานะคะ แนะนำให้ตัดเล็บให้สั้นเลยค่ะ บางครั้งเราเผลอเกา จะเกิดการระคายเคือง และเป็นรอยดำได้
ถ้าใครคันให้เอามือลูบ ๆ เอานะคะ ** ย้ำอีกครั้ง เบามือที่สุด ไม่ขัด หรือ ถูที่ผิว เพราะจะเกิดแรงเสียดสีทำให้เป็นรอยดำได้ค่ะ
FACIAL WHITE PEEL
วิธีการลอกหน้า (GREEN PEEL)
1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยสบู่โยเกิร์ตบัวหิมะ+กวาวเครือขาว 2-3 รอบให้หน้าตึงๆหน่อย
2. ให้เปิดฝาน้ำยากรีนพีลออกไปเลยค่ะ เอาสำลีแผ่นวางบนปากขวด กระดก 3-4 ครั้งให้สำลีชุ่มพอประมาณ เช็ดน้ำยาให้ทั่วใบหน้า
ให้ลงตรงหน้าผากก่อน เพราะเป็นส่วนที่กร้านที่สุดของใบหน้า แล้วไล่ๆมาตรงข้างแก้ม น้ำยาจะเจือจางลงพอดี เวลาเช็ดน้ำยาซ้ำ
ให้รอน้ำยาที่ลงไปแล้วแห้งก่อนจึงลงซ้ำรอบต่อไป ระวังรอบดวงตา และมุมปาก อย่าลงซ้ำเยอะเพราะเป็นส่วนที่บอบบาง ทิ้งไว้
ตามเวลาที่กำหนด 15-30 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ไม่ต้องใช้สบู่ อาจมีอาการแสบเล็กน้อย เวลาลงซ้ำหลายครั้ง วิธีแก้คือ
อย่าลงซ้ำหลายรอบ 2-3 รอบพอ หรือ อย่าชุบน้ำยาชุ่มมาก หากรู้สึกว่าทนไม่ไหวก็ล้างน้ำเปล่าออกไปเลย ถ้าเคยลอกแล้วสามารถเพิ่ม
ระยะเวลาที่เช็ดน้ำยาทิ้งไว้ได้
3. หลังจากลงน้ำยาครบจำนวนครั้งที่กำหนด สามารถลงซ้ำได้อีก เฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด่างดำจากสิว รอยฝ้าตื้นได้ 1-2 รอบ
4. ทิ้งน้ำยาไว้เพียงแค่ 15-30 นาที แล้วแต่ผิว ถ้าใครทำก่อนนอน ไม่ได้ไปไหน ทาทิ้งไว้โดนไม่ต้องล้างออกก็ได้ไม่เป็นไร
เช้ามาล้างหน้าฟอกสบู่ ตามปกติ
5. ควรงดทาครีมในคืนแรก
6. ในวันรุ่งขึ้นสามารถล้างหน้า ทาครีมได้ตามปกติ และควรใช้กันแดด SPF 50 ขึ้นไปทุกวัน (1-3 วันแรก
ทาเฉพาะกันแดดอย่างเดียวก่อนก็ได้ และเริ่มทาครีมบำรุงในวันที่ 4 เป็นต้นไป แล้วแต่ลูกค้าค่ะ)
7. ประมาณ 3-14 วัน ผิวจะเริ่มลอก และลอกหมดประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้วแต่ผิวค่ะ รอผิวลอกหมดให้ทำครั้งต่อไปได้
8. ถ้าเวลาผิวลอกแล้วแสบหน้ามาก ใหทาครีม (เซรั่มสกินฟูด เหมาะกับผิวแพ้ง่าย) บริเวณที่แสบเยอะหน่อย
9. สรุป แนะนำให้ลอกผิว 1 เดือน/ครั้ง
น้ำยาลอกหน้า Green peel 10 มล. สามารถลอกได้ 2-3 ครั้ง (คุ้มจริงๆ)
ชุดบำรุงในเซ็ท ใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน
การ ลอกผิวครั้งแรกจะรู้สึกว่า สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รอยด่างดำจางลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น จะเห็นผลดีชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในการลอกครั้งต่อๆไป อย่างต่อเนื่อง ผิวหน้าสามารถลอกต่อเนื่องได้ไม่มีอันตรายไม่ทำให้หน้าบางลง ลอกได้ประมาณ 3-6 ครั้งค่ะ เมื่อผิวขาวจนพอใจแล้ว สามารถลอกผิวซ้ำได้ 3 หรือ 6 เดือน/ครั้ง ตามความต้องการของลูกค้า
แนะนำให้ลูกค้า ถ่ายรูปเปรียบเทียบกัน จะรู้สึกได้ด้วยตนเองอย่างชัดเจน
ไม่มีอะไรที่จำทำให้คุณขาวถาวรตลอดชีวิตได้โดยไม่กลับไปดำอีกหากคุณไม่ดูแลใส่ใจตัวเอง
อยากขาวใสเหมือนดารา ก็ต้องทำตัวแบบดาราค่ะคือ ขัด พอกผิว ทำผิวสม่ำเสมอ หรือซื้อมาทำเองที่บ้านก็ได้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดดทากันแดดและไวท์เทนนิ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน
เพียงแค่นี้ก็จะมีผิวที่สวย ขาว ใส อีกนานค่ะ อย่าอ้างว่าขี้เกียจ อย่าอ้างว่าเห็นผลช้า ไม่มีอะไรทำให้สวยได้ทันใจ คนอยากสวยเขาไม่ขี้เกียจกันนะคะ
คำถามที่พบบ่อยในการลอกผิวขาวใสค่ะ
คุณมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุด มั่นใจที่สุด เพื่อตัวของคุณเอง ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกันค่ะน้ำยาลอกผิวขาวใสของทางร้านปลอดภัย
ไม่ได้ใช้กรดวิตามินเอ หรือกรดเรติโนอิก ที่เป็นสารต้องห้าม มีฤทธิ์ในการเร่งผลัดเซลล์ผิว ใช้ไปใช้มาเป็นรอยด่างขาว หรือแม้แต่
TCA ซึ่งจริง ๆ ก็มีการใช้แพร่หลายในวงการลอกผิว แต่มีอาการแสบร้อนมากเมื่อทา และระคายเคือง มีอาการหน้าบวมแดง
แพ้ง่าย แต่เดี๋ยวก็หายนะ ( เดี๋ยวหาว่าโจมตีร้านอื่น เดี๋ยวงานเข้า ) สูตรนี้เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย และใช้ TCA ไม่ได้
แต่กรดบลูพีล สามารถใช้ได้ แสบน้อยกว่า ลอกสม่ำเสมอกว่า น้ำยาลอกผิวขาวใสร้านโหน่ง มี 2 แบบค่ะ คือ Blue Peel น้ำยาสีฟ้า สำหรับ ลอกผิวกายขาวใส ค่ะ Green Peel น้ำยาสีเขียว สำหรับ ลอกหน้าขาวใส ค่ะ^^ ตัวน้ำยาอ่อนโยน
ไม่แสบร้อนมาก อาจมีนิดหน่อยในบริเวณบอบบาง แต่ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ลอกขาวเห็นผลค่ะ ^^
ส่วนการเห็นผลแต่ละท่านมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการทำซ้ำค่ะทางร้านจึงไม่จำเป็นต้องมีน้ำยาหลายขวด เปิดผิว ปิดผิว
หรือต้องห้ามอาบน้ำ 24 ชั่วโมง สำคัญที่สุด ทำครั้งแรกจะรู้สึกแค่ผิวลอก ไม่ถึงกับขาว เพียงกระจ่างใสกว่าเดิม รอยแผล จุดด่างดำ
อาจจะจางลงบ้าง ให้ใช้ครีมบำรุงที่ทางร้านจัดให้นะคะ ช่วยในการปรับสภาพผิว ลดเม็ดสี มีสารบำรุงหลายตัว ช่วยให้ผิวขาวขึ้น
แล้วต้องทาจำเป็นมาก ครีมกันแดดเป็นประจำ ค่ะ และหลบแดด โดยเฉพาะแดดจัด ๆ ตอนกลางวัน ไม่เช่นนั้นจะกลับมาคล้ำได้อีก
เมื่อลอก 2 – 3 ครั้ง ถ้าถ่ายรูปก่อนทำตั้งแต่ยังไม่เคยลอกเลย จนครั้ง ที่ 1 2 3 จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงค่ะ ของแบบนี้ ต้องค่อยเป็น
ค่อยไป อดทน และบำรุงผิวพรรณสม่ำเสมอ ป้องกันแสงแดด จะช่วยได้มากค่ะ ทั้งผิวหน้า / ผิวกาย ลอกครั้งแรก จะดูใส
กระจ่างขึ้นเท่านั้น เราไม่โฆษณาเกินความเป็นจริง ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกันค่ะ เมื่อลอกครั้งต่อไป และบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง
ทากันแดดสม่ำเสมอ จะเริ่มเห็นความแตกต่างขึ้นเรื่อย ๆ และชัดเจนค่ะ รอยสิว รอยด่างดำ จุดด่างดำ รอยแตกลาย
จะค่อย ๆ จางลงตามลำดับ ( สำหรับผิวหน้าถ้าทาครีมแต้มรอยดำสูตรพิเศษ รับรองผล 100% ว่าจะหน้าเนียนมาก โดย
ไม่ ต้องใช้แท่งครีมปกปิดริ้วรอย หรือครีมรองพื้นอีกต่อไปค่ะ ) ผิวขาวใสขึ้น ขาวเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับลูกค้าด้วยค่ะ
ว่า บำรุงผิวอย่างไร เอาใจใส่มากน้อยแค่ไหน ทาครีมบำรุง + กันแดด เป็นประจำหรือไม่ ต้องอดทน อย่าท้อค่ะ พอผิวขาวแล้ว
ก็ต้องดูแลต่อไป ผิวขาว ๆ จะได้อยู่กับเรานาน ๆ ครีมที่ร้านไม่มีสารปรอท สารไฮโดรควิโนน ควินิน หรือสารต้องห้ามใด ๆ ค่ะ
ในอินเตอร์เน็ต มีร้านขายน้ำยาลอกผิวให้ขาว และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากมาย ลูกค้าใช้วิจารณญารเอาเองนะคะ --- สำหรับผิวขาวเหลือง แนะนำให้ใช้ 3 – 5 เซ็ท---สำหรับผิวดำแดงผิวสองสี แนะนำให้ใช้ 5 – 6 เซ็ท**โดยลอกเดือนละ 1 ครั้ง
ทั้งผิวหน้าและผิวกายค่ะ หลังจากนั้น ก็ 6 เดือนครั้ง หรือ ปีละครั้งก็แล้วแต่ค่ะ เมื่อพอใจผิวแล้ว ก็สามารถ ทรีทเม้นท์ ทำ AHA
มาร์กหน้า พอกหน้า ขัดหน้า อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งได้ค่ะ เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ลอกออก พร้อมเตรียมการบำรุง
ขั้นต่อไปค่ะ คำถามที่พบบ่อย สำหรับการลอกผิวขาวใสถาวร ค่ะ
1. ทำที่สปาเป็นคอร์ส กับ ทำเองที่บ้าน ต่างกันยังไงคะ ? ^^
ทรีทเม้นท์ที่ทำให้ผิวขาว เพียงแค่ลอกผิว ซึ่งจะขาวภายใน 20 วัน จะดำแค่ไหนก็ขาวได้แน่นอน แต่อาจแตกต่างกันไปแล้ว
แต่สภาพผิวของแต่ละคน และการทำบ่อยแค่ไหน ตามสปาที่เปิดผิวให้ดารา พริตตี้ ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ที่แตกต่างกัน
เพราะ --- คนไม่รู้จัก เลยสามารถ UP ราคาสูงเท่าไรก็ได้ค่ะ--- ค่าบริการ ค่าพนักงาน ค่าแอร์ ค่าเช่า ฯลฯ ต้องรวมอยู่ในบริการทั้งหมดที่ลูกค้าต้องเสียค่ะ--- ตามสปามีคอร์สอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ทำที่บ้านไม่มีค่ะ แค่นี้เองที่แตกต่างกัน ถ้าลูกค้าอยากบำรุง ไปตามสปาเล็ก ๆ ก็ได้ค่ะ แต่ยังไงทำที่บ้านย่อมถูกกว่าหลายเท่าค่ะ ^^
2. การลอกผิว คือ อะไร ?^^ การลอกหน้า ด้วยสารเคมี
เป็นการใช้สารเคมี ทาบนผิวหน้าทำให้เกิดการลอกหลุดของเซลล์ผิวหนังชั้นบน ตามมาด้วยการสร้างเซลล์ผิวหนังขึ้นใหม่จากข้างใต้
( เป็นขั้นตอนของธรรมชาติ ) ผิวหนังใหม่จะมีความนุ่มนวล และสีผิวสม่ำเสมอกว่าเดิม นอกจากนั้นเชื่อว่า การที่ผิวหนังมีความ
อักเสบจากการใช้สารเคมีนี้ จะทำให้มีการหลั่งสารบางชนิดไปกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน ในชั้นหนังแท้เพิ่มมากขึ้น ^^
3. น้ำยาลอกผิว คือ อะไร ?^^ สารเคมีที่นำมาทาผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวลอก เร็วกว่าวงจรการลอกผิวปกติ เซลล์ผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า
จะมีการสร้างขึ้นใหม่ อยู่ตลอดเวลาจากชั้นลึก และจะมีการเคลื่อนจากชั้นลึกขึ้นสู่ขั้นบน และลอกหลุดไป เป็นขี้ไคลใช้ระยะเวลา
ประมาณ 14 วัน แต่ยิ่งอายุมากขึ้น วงจรการผลัดผิว จะช้าลง โดยในที่นี้ น้ำยาลอกผิวขาวใส ของทางร้านเป็นน้ำยาที่มี สารผสมระหว่างAHA ที่ไม่ใช่กรดไกลโคลิก ร่วมกับสาร BHA ให้ชื่อว่า Blue Peel ข้อดีของสารนี้คือ บางคนที่ใช้สาร TCA ลอกหน้าไม่ได้ สารนี้กลับลอกได้โดยไม่มีปัญหา และการลอกสม่ำเสมอกว่า แสบน้อยกว่า ^^
4. อันตรายหรือไม่ มีผลเสียในระยะยาวหรือไม่ ? ^^ ถ้าทำอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ตามเอกสารที่แนบไปก็ไม่มีอันตราย และไม่มีผลเสียในระยะยาว ^^
5. จะทำให้ผิวบางหรือไม่ ?^^
ตามข้อเท็จจริง การลอกผิวด้วยน้ำยา Blue Peel ไม่ได้ทำให้ผิวหนังบางลงแต่อย่างใด แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อ
คอลลาเจนมากขึ้น “ ตัดมาให้อ่านจากบทความของแพทย์ ”“ บางคนว่าหน้าบาง ทำให้ใช้เครื่องสำอางอะไรไม่ได้ ความจริง
หาเป็นเช่นนั้นไม่ หลังจากการทำ จะทำให้ใบหน้าของคุณหนาขึ้น ชั้นหนังกำพร้าหนาขึ้น เพราะการสร้างใยคอลลาเจนใหม่
จะดำเนินต่อไป อีก 1 เดือน หลังจากลอก ความรู้สึกเท่านั้นที่บอกคุณว่าผิวบาง เพราะผิวของคุณ ไวต่อสารเคมีอื่น ๆ เท่านั้น
วิธีนี้แก้โดย ใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ( Sensitive Skin ) ” “ นอกจากนั้นเชื่อว่า การที่ผิวหนัง
มีการอักเสบจากการใช้ สารเคมี นี้จะทำให้มีการหลั่งสารหลั่งบางชนิด ไปกระตุ้นให้มีการสร้าง เนื้อเยื่อ คอลลาเจนในชั้นหนังแท้
เพิ่มขึ้น ” ^^
6. จะขาวไหม ขาวหรือ ขาวนานมั้ย ?
^^ “ จุดประสงค์ของการลอกหน้า ”
- เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายเ
ร่งการผลิตขี้ไคล และเป็นการทำให้ผิวหนังหนาขึ้น และผิวของสีจางลง ทำให้ฝ้าจางได้ และลดการอุดตันของรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุ
ของสิว- เป็นการทำลายเซลล์ ซึ่งถูกทำลายจากสาเหตุอื่น เช่น แผลเป็นจากสิว ผิวคล้ำเสียสะสมจากแสงแดด ผิวหน้าไม่เรียบเนียน สีผิวไม่เรียบสม่ำเสมอ- ทำให้เกิดการอักเสบในชั้นผิวหนัง ก่อให้เกิดการสร้างใยคอลลาเจน และใยยืดหยุ่นใหม่ ทำให้เกิดการสร้างน้ำ
และสารบางอย่าง ซึ่งมีผลต่อ ความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังที่ขึ้นใหม่ อ่อนนุ่ม อ่อนเยาว์ แลดูสุขภาพดี ดูหนุ่มสาวขึ้น
เป็นวิธีชะลอ ความชรา“ ผิวจะค่อย ๆ ขาวขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อลอกผิวอย่างต่อเนื่องค่ะ ลอกครั้งแรก จะรู้สึกแค่ว่า ผิวดูใสขึ้น
รอยด่างดำแลดูจางลงเท่านั้นค่ะ อาจมีเพียงแค่เราที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง ( ถ้าคนอื่นไม่สังเกต ก็จะไม่ทราบเลยค่ะ )”
จะไม่ใช่ผิวขาวแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะคะ** ผิวจะขาวขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อลอกอย่างต่อเนื่อง 3 -5 ครั้ง **และจำเป็นต้องบำรุงด้วยครีมในหมวด ผิวหน้าขาวกระจ่างใส และทาครีมกันแดทุกวันสม่ำเสมอ พร้อมหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด เป็นประจำค่ะ** ดังนั้น ทางร้านขอแนะนำ ค่ะว่า **^^ สำหรับคนผิวขาวเหลือง แนะนำให้ใช้ 3 – 5 เซ็ท^^ สำหรับคนสองสี ผิวดำแดง แนะนำให้ใช้ 5 – 6 เซ็ท ค่ะให้บำรุงผิวหน้า & ผิวกาย อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ครีมหมวด ผิวขาวกระจ่างใส เป็นประจำ โดยลอก เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งผิวหน้า และ ผิวกาย ค่ะผิวจะขาวใส สีผิวสม่ำเสมอ ขาวขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ส่วนพอขาวแล้ว พอใจแล้ว จะอยู่นานไม่นานนั้น ขึ้นอยู่กับว่า บำรุงหลังจากลอกได้ดีแค่ไหนไปตากแดดจัด ๆ หรือเปล่า ป้องกันแสงแดดหรือไม่ ใช้ครีมอะไรทาผิว (ตรงนี้สำคัญค่ะ
ครีมบางตัวมีประสิทธิภาพดีส่วนผสมและสรรพคุณลดการสร้างเม็ดสี บางตัวไม่มีค่ะ) ดื่มน้ำเยอะหรือไม่ ทานผักผลไม้มากหรือเปล่า
จำเป็นค่ะ เพราะน้ำจำเป็นต่อผิว ยิ่งทานผักผลไม้มาก ก็มีผลต่อผิวใหม่ด้วยค่ะ ถ้าดูแลตัวเองดีมากอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่กลับมาดำ
หรือดำมากว่าเดิมแน่นอนค่ะ มีแต่จะขาวใส เป็นธรรมชาติขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
7. ใช้อย่างไร ?^^ คร่าว ๆ นะคะ นำ...น้ำยาลอกผิวขาวใส ชุบสำลีและนำมาทาบริเวณที่ต้องการลอก ทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด ประมาณ 10 – 60 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่า ไม่ต้องทาทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หรือ ห้ามอาบน้ำ ^^
8. ผิวจะลอกหรือไม่ หรือจะลอกเป็นแบบไหน ไปทำงาน ไปเรียนได้มั้ย ?^^ ทำตามเอกสารวิธีที่แนบไป
ยังไงก็ลอกค่ะ ให้ใจเย็น ๆ ค่ะ ผิวแต่ละคนลอกช้าเร็วไม่เหมือนกัน สาเหตุที่ทำให้ผิวไม่ลอก คือ ลงน้ำยาน้อยเกินไป ไม่ทาซ้ำ 2 – 3
รอบระยะเวลาที่ทาทิ้งไว้ และล้างออกเร็วเกินไป ผิวจะลอกเป็นแบบไหน ผิวกาย ---- บางคนลอกเป็นแผ่น ๆ ---- บางคนลอกเป็นขุย ๆแต่ผิวหน้าส่วนใหญ่จะลอกเป็นขุยๆ ค่ะ เหมือนผิวแตกหน้าหนาว แล้วไม่ยอมทาครีม** เวลาผิวลอกไปเรียน /
ทำงานได้ตามปกติค่ะ ** ( ถ้าทำตอนช่วงวันหยุดยาว ๆ จะดีมากเลยค่ะ ) ให้ทาครีมจะช่วยให้ผิวดูไม่แห้งมากเกินไป เป็นขุยมากเกินไป
และทาครีมกันแดด และหลบแดดช่วงนี้ไปก่อน ^^
9. จะทำผิวครั้งต่อไปเมื่อไร ?^^ โดยปกติผิวจะเริ่มลอกในวันที่ 3 – 7 หลังจากลงน้ำยาไป และลอกหมด 2 – 3 สัปดาห์ ให้พักผิวสัก 1 สัปดาห์ แล้วลงน้ำยาลอกผิวครั้งต่อไป ตามขั้นตอนเดิม ^^
10. จะดูแลอย่างไรระหว่างผิวลอก และหลังจากลอกเสร็จหมดแล้ว ?^^ เวลาผิวลอกจะคัน เหมือนผิวแตกหน้าหนาว อย่าเกานะคะ
เดี๋ยวเป็นรอยดำ ๆ ถ้าคันมากให้ทาครีมบำรุงผิวได้ หรือให้เอามือลูบ ๆ เอา หลังผิวลอกหมดแล้ว ถ้าจะลอกต่อให้ทำตามขั้นตอนเดิม
ถ้าไม่ลอกแล้ว พอใจแล้ว ให้ทาครีมบำรุงที่ทางร้านจัดเซ็ทไว้ให้ หรือครีมบำรุงในหมวด ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ถ้าอายุ เกิน 30 ใช้ครีม
บำรุงหมวดลดริ้วรอย พร้อมทาครีมกันแดด เป็นประจำค่ะ แล้วมาร์กหน้า ขัดหน้าหรือ พอกหน้า อาทิตย์ละ 2- 3 ครั้งค่ะ ปกป้องแสงแดดสม่ำเสมอ
11. จะรู้ได้อย่างไร ว่าจะแพ้หรือเปล่า ?^^ สำหรับคนที่ไม่เคยแพ้อะไรเลย ก็จะไม่แพ้ค่ะ แต่คนที่แพ้อะไรมาก่อน
ควรทดสอบอาการแพ้ที่กราม ดูก่อนค่ะ ทาน้ำยาลอกผิวขาวใส บริเวณกราม แล้วทิ้งไว้ 10 – 60 นาที รอดูผล 3- 7 วันค่ะ
หากไม่มีอาการผดแพ้ แสบ คัน (ถ้าคันเพราะผิวแห้งใกล้ลอกไม่เกี่ยวกันนะคะถือว่าปกติค่ะ) สามารถใช้น้ำยาได้ค่ะ
เพราะน้ำยาที่ร้านระคายเคืองน้อย / แสบน้อยมากค่ะ ^^
12. หลังจากลงน้ำยาไปแล้ว 1 – 2 วัน อาการหน้าตึง ๆ เหี่ยว ๆ เหมือนผิวจะคล้ำลงนิดหน่อยเป็นอาการปกติหรือไม่ ?^^ ผิวเหี่ยวย่น รอการหลุดลอก ให้ใจเย็น ๆ และอย่าอ้าปากกว้างค่ะ เพราะหน้าตึงอยู่ค่ะ ^^
13. ลอกผิวแล้วสีขนเปลี่ยนหรือไม่ ?^^ ไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะไม่มีไฮโดรเจนจ้ะ ที่เปลี่ยนคือ สีผิวขาวใส กระจ่างขึ้น แต่สีขนยังอยู่เหมือนเดิมค่ะ ^^
14. ถ้าลงน้ำยาลอกผิวขาว ตัวนี้ ตอนกลางคืน แล้วลืมล้างออก อันตรายหรือเปล่าคะ ?^^
ไม่อันตรายค่ะ ถ้าทำตอนกลางคืนแล้วไม่ได้ไปไหน สามารถลงน้ำยาทิ้งไว้ได้เลยค่ะ เช้ามาอาบน้ำฟอกสบู่ทาครีมได้ตามปกติค่ะ ^^
15. ผิวจะขาวขึ้นแค่ไหน ประมาณนะ ไม่ได้เป๊ะ ๆ ?^^
1.ลอกครั้งแรก ผิวยังไม่ขาว แต่จะดูเนียนใส สม่ำเสมอมากขึ้น
2.ลอกตามคอร์ส 3 ครั้ง ผิวจะขาวพอ ๆ กับส่วนที่ขาวที่สุด ของตัวเราเอง (พยายามอธิบายให้เข้าใจง่าย)
3.ลอก 3 – 6 ครั้ง ก็จะขาวขึ้นอีกหน่อยนึง แล้วแต่คน บอกเป๊ะ ๆ เลยไม่ได้ค่ะ
4.หลังจากลอกครบคอร์สแล้ว ให้ตั้งอกตั้งใจ ทาครีมบำรุงผิว เอาใจใส่


   


ราคา: 800-1,950 ต้องการ: ขาย/ให้เช่า/แลก
ติดต่อ: โหน่งอีเมล์: 
สภาพ: ใหม่ จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โทรศัพย์: 0879806734IP Address: 61.90.78.51

คำค้น:  โรงงานมะหาดไกลลาดพร้าวมีไม่ | น้ำยาลอกผิว กรีนพีล มีขายที่ไหน วัตสัน | น้ำยาลอกผิว วัตสัน | น้ำยาเปิดผิว กรีนพีล | น้ำยาลอกผิวขาววัตสัน |



ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ

[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]





ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)

รูป   รายละเอียด ราคา
  1,490 บาท
  1,490 บาท
  1,490 บาท
  990 บาท
  990 บาท
  1,490 บาท
  990 บาท
  990 บาท
  990 บาท
  990 บาท
  1,200
  ไม่ระบุ
  2,200 บาท
  ถูก + ดี
  850
  3,500
  ไม่ระบุ
  280
  ไม่ระบุ
  390