ขายมอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบา (ISC มอเตอร์) Cedia พร้อมรายละเอียดการทดสอบและปัญหาของ ISC ทุกประเด็น

ขายมอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบา (ISC มอเตอร์)  Cedia พร้อมรายละเอียดการทดสอบและปัญหาของ ISC ทุกประเด็น
ราคา 3,000 บาท ของใหม่  รับประกันสินค้า 3 เดือน
 มีของพร้อมส่งครับ 081-4882499  วุฒิกร
http://www.youtube.com/watch?v=sE-3PfKpymE&feature=mfu_in_order&list=UL
     เบิกศูนย์ ประมาณ 10,000 บาท
     วรจักรขายอยู่ ประมาณ 6000-7000 บาท แล้วแต่ร้าน แถมไม่มีรุ่นตรงด้วยครับ เป็น PART Number 1450A132 หน้าตาจะไม่เหมือนตัวติดรถ
     เซียงกงไม่ต้องหาครับ หายากมาก (ไม่อยากให้เสียเวลาครับ เพราะผมเคยไปหามาที่เซียงกงบางนา ไม่มีสักร้าน)   หลักการทำงาน
   มอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบา (Idle Speed Control หรือ Idle Air Control) เรียกย่อๆ ว่า ISC Motor ในรุ่น Cedia
จะเป็น Stepping Motor แบบ 6 สาย ครับ (ลองหาข้อมูลใน google เพิ่มเติมครับ Search ว่า Stepping 6 สาย) จึง
ไม่สามารถทดสอบการทำงานโดยป้อนแรงดันเข้าไปที่ขั้วโดยตรงได้ การทดสอบจะต้องจ่ายไฟให้สัมพันธ์กับเฟสของมอเตอร์
หน้าที่หลักของมอเตอร์ตัวนี้ คือ รักษาระดับรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ให้มีค่าคงที่ เมื่อรอบเครื่องยนต์ลดลง อันเนื่องมาจาก การทำงาน
ของคอมเพรสเซอร์แอร์ , เข้าเกียร์ D , การหมุนพวงมาลัย หรือ แม้แต่กระทั่งการเปิดไฟหน้า  ตัวมอเตอร์จะเปิดวาล์ว (แกน
มอเตอร์หดตัว) เพื่อให้อากาศเข้าสู่ท่อไอดีมากขึ้น ซึ่งในท่อไอดีนี้จะมี Sensor อีกตัวนึง เรียกว่า MAP Sensor  ทำหน้าที่ตรวจวัดอากาศ
ภายในท่อไอดี ถ้าอากาศเพิ่มขึ้นก็จะส่งสัญญาณไปยัง ECU เพื่อให้จ่ายน้ำมันมากขึ้นตาม  
  ถ้ามอเตอร์เดินเบาชำรุด เครื่องจะเดินเบาไม่ได้ รอบเครื่องอาจต่ำกว่าปกติ หรือ อาจมีการเร่งเองได้ สวิงไปมา ตัวมอเตอร์
อยู่ใต้ลิ้นปีกผีเสื้อ สีดำ มีน๊อตยึดอยู่ 3 ตัว  ลักษณะขั้วต่อเป็น 6 ขา  สามารถถอดมาเพื่อวัดความต้านทานของขดลวดได้
ระหว่างขา 1 กับ 3 มีความต้านทาน ประมาณ 60 โอห์ม  4 กับ 6  60 โอห์มเช่นกัน 
   ส่วนมากรถที่ติดตั้งแก๊สและใช้งานเป็นเวลานาน จะมีปัญหาที่มอเตอร์ตัวนี้เนื่องจากหัววาล์วรุ่นนี้ไม่ใช่โลหะเหมือนรถบางรุ่นจึงมีการสึกกร่อน
ของหัววาล์ว อันเนื่องจากความร้อน   การสึกกร่อนนี้ส่งผลให้หน้าวาล์วปิดไม่สนิท(ในจังหว่ะมอเตอร์ยึดสุด)จึงทำให้เครื่องมีรอบสูงตลอดหรือสวิงไปมา
ในขณะที่มีการตัดต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์  อาการเบื้องต้นเมื่อมอเตอร์ชำรุด
   - เปิดแอร์ รอบตก
   - เข้าเกียร์ D รอบตก
   - เปลี่ยนเกียร์จาก N ไป D แล้วรอบสวิงสูง
   - เข้าเกียร์ N แล้วรอบไม่นิ่ง
 
การทดสอบการทำงานของมอเตอร์
    เราสามารถทดสอบการทำงานของมอเตอร์เดินเบาได้โดย ถอดมอเตอร์ออกมา สังเกตุแกนมอเตอร์ ตอนเปิดสวิทช์กุญแจ แกนมอเตอร์จะยืด
และตอนปิดสวิทช์กุญแจแกนมอเตอร์จะหด   ถ้าต้องการทดสอบให้ละเอียดขึ้นให้นำผ้ามาอุดที่ท่ออากาศของมอเตอร์ จากนั้นสตาร์ทรถ  ในจังหวะ
เปิดแอร์แกนมอเตอร์จะหดตัวเพื่อให้อากาศไหลเข้าท่อไอดีมากขึ้น และ เมื่อปิดแอร์แกนมอเตอร์จะยืดออกเพื่อปิดอากาศ
สรุปให้อีกทีครับ
  มอเตอร์เดินเบามิซูบิชิ  ในรถตระกูลมิตซูบิชิในไทย มอเตอร์เดินเบาที่ใช้กันอยู่ทั้งหมด 3 แบบเท่านั้น
เครื่องแคมคู่ทั้งหมดจะเป็น 6 ขาปลั๊กใหญ่  ส่วนเครื่องแคมเดี่ยวหลังจาก ecar มาทั้งหมดจะเป็น 6 ขาปลั๊กเล็ก
ส่วนเครื่องแคมเดี่ยว ecar จะเป็นรูปแบบของ DC มอเตอร์แล้วไปขับเฟืองภายในตัวนี้เปรอะสุด มีโอกาสเสีย
ง่ายที่สุด
    มอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบา หรือเรียกกันสั้นๆ ISC MOTOR  ต่างประเทศจะเรียกว่า IAC MOTOR 
ISC ย่อมาจาก Idle Speed Control ส่วน IAC ย่อมาจาก Idle Air Control  จริงๆ แล้ว การเรียก
IAC น่าจะถูกต้องกว่าเพราะ ECU ไม่ได้ควบคุมความเร็วแต่เป็นการควบคุมอากาศที่ไหลผ่านเข้าไปยังท่อไอดี
(ท่อไอดีรถบางรุ่นเป็นท่อไอดีร่วม หมายถึง ท่อไอดีทุกสูบถูกต่อเข้ามายังท่อร่วมตัวเดียวกัน  แต่บางรุ่นก็เป็นท่อไอ
ดีแยก) แต่ไม่ว่าจะเป็นท่อไอดีร่วมหรือไอดีแยก ตัว ISC จะถูกติดตั้งอยู่ก่อนหน้าท่อไอดีทั้งสิ้น โดยปกติ จะติดตั้ง
อยู่บริเวณตอนล่างของชุดลิ้นปีกผีเสื้อ
   หน้าที่ของ ISC ก็คือ ควบคุมการเพิ่มและลดปริมาณอากาศที่ไหลเข้าสู่ท่อไอดี  การเพิ่มปริมาณอากาศ หมายถึง
หดแกนมอเตอร์เพื่อให้อากาศเข้าสู่ท่อไอดีมากขึ้น   การลดปริมาณอากาศ หมายถึง ยืดแกนมอเตอร์ออกเพื่อให้อา
กาศเข้าสู่ท่อไอดีลดลง   ทำไมการเปิดและปิดอากาศจึงมีผลต่อรอบเครื่อง?
   ในส่วนของท่อไอดีจะมี Sensor ตัวนึงติดตั้งอยู่เพื่อตรวจเช็คปริมาณอากาศว่ามีค่ามากน้อยเพียงใด  ในที่นี้ขอยกตัว
อย่าง LANCER CEDIA 1.6 รหัสเครื่อง 4G18 แคมชาร์ฟ เดี่ยว  บริเวณท่อร่วมไอดีจะมี MAP Sensor ติดตั้ง
อยู่เพื่อตรวจวัดปริมาณอากาศ  โครงสร้างของ MAP Sensor จะเป็นความต้านทาน 4 ตัวต่อในรูปแบบ Bridge ค่า
ความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงตามความดันอากาศที่ตรวจวัดได้ในขณะนั้น  ถ้าปริมาณอากาศมากขึ้นแรงดันที่ออก
จาก map ก็สูงขึ้นตามแรงดันนี้ถูกส่งต่อไปยัง ECU โดยเมื่อแรงดันสูงขึ้น ECU ก็จะสั่งจ่ายน้ำมันมากขึ้น การจ่าย
น้ำมันมากขึ้นก็คือการเปิดหัวฉีดให้นานขึ้นนั่นเอง ในทางกลับกันถ้าปริมาณอากาศในท่อไอดีลดลง ECU ก็จะสั่งจ่าย
น้ำมันน้อยลงตาม
 
  เวลาเอารถไปซ่อมช่างชอบบอกว่า เฟืองใน step พัง จริงหรือ ?
   ถ้าเป็น ECAR เครื่องแคมเดี่ยวนะใช่ครับ มันจะมีเฟืองอยู่ในชุดขับเสต็ป  แต่ถ้าหลังจาก ECAR แล้วไม่มีเฟืองครับ
มันเป็น STEPPING มอเตอร์แบบ 6 สาย ไม่มีเฟืองในมอเตอร์แน่นอน แต่จะเป็นเกลียวแทนครับเกลียวนี้จะอยู่ที่แกน
ของมอเตอร์ซึ่งจะต่อเข้ากับแกนของวาวล์ โอกาสเสียหายน้อยมากเพราะมันเป็นเกลียวขนาดใหญ่
 
  การตอบสนองของ ISC การเชื้อเพลิงที่เป็นแก๊สกับน้ำมันต่างกันหรือไม่?
   ถ้าวิ่งแก๊สอย่างเดียว  น้ำมันอย่างเดียว หรือสตาร์ทน้ำมันไม่นานแล้วตัดแก๊สเลยก็ไม่มีปัญหาครับ เพราะการปรับเสต็ป
จะยังเป็นค่าเดิมอยู่ แต่ถ้าสตาร์ทน้ำมันแล้ววิ่งน้ำมันระยะหนึ่งแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นแก๊สละ ECU จะพยายามควบคุมเดินเบา
ให้เหมาะสมกับเชื้อเพลิงครับ  การยืดหรือหดแกนในระยะที่เท่ากันของเชื้อเพลิงแก๊สกับน้ำมันมีผลต่อรอบเครื่องไม่เท่ากัน
โดยเฉพาะแก๊สระบบดูด อย่าลืมว่าในโหมดแก๊สจังหวะที่วาวล์เปิดมากขึ้นไม่ได้มีเพียงอากาศเข้ามาอย่างเดียวแต่จะมีแก๊สเข้า
มาด้วย ยกตัวอย่างเช่น เชื้อเพลิงเบนซิน หดแกน 1 มม รอบอาจจะสูงขึ้น 80 RPM แต่ในโหมดแก๊สอาจขึ้นเพียง  50 RPM
แม้กระทั่งเบนซินที่มีค่าออกเทนต่างกันยังมีผลเลยครับ ที่ระยะหดของแกนเท่ากัน ค่าออกเทนสูง ย่อมทำรอบเครื่องสูงกว่า ดังนั้นรถ
ที่ใช้น้ำมันจึงไม่ควร เติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่างกันในแต่ละถังเพราะจะมีผลต่อรอบเดินเบาในช่วงแรกที่ทำการเปลี่ยนชนิดของ
น้ำมัน โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีความละเอียดของ STEP มอเตอร์สูงๆ จะเห็นผลชัดเจน
   ที่บอกกันว่าเวลาปรับตั้งรอบเดินเบาหรือเปลี่ยน ISC ต้อง reset ecu จริงหรือ ? (อ้างอิง CEDIA และรถปีใหม่กว่า
เพราะไม่แน่ในว่าก่อนหน้า CEDIA ECU จะฉลาดเท่ากันหรือไม่)
    จะ reset หรือไม่ reset ก็ได้ครับ เพราะยังไงก็ต้องให้เรียนรู้ใหม่กรณีทำการรีเซต ECU   ECU จะโหลดค่ามาตร
ฐานจากโรงงานมาใช้ในการขับเสต็ป รวมถึงอุปกรณ์อื่นภายในตัวรถด้วย  แต่ถ้าไม่รีเซต ECU ก็จะนำค่าการปรับ step
ก่อนหน้านี้มาใช้ รอบเครื่องอาจมีการสวิงผิดปกติในช่วงแรก  
    ข้อดีของการ RESET   คือ ในช่วงแรกก่อนที่ ecu จะเริ่มเรียนรู้การปรับเสต็ป รอบเดินเบาจะไม่สวิงมาก
    ข้อเสียของการ RESET คือ  ระบบอื่นๆ ในรถจะถูกรีเซตด้วย โดยเฉพาะรถเกียร์ ออโต้
   
    ข้อดีของการไม่ RESET คือ ระบบอื่นๆ ในรถจะไม่ถูกรีเซต
    ข้อเสียของการไม่ RESET คือ ในช่วงแรกก่อนที่ ECU จะเริ่มเรียนรู้การปรับเสต็ป รอบเดินเบาอาจสวิงมากกว่าปกติ
   
       รูปแบบการปรับเสต็ปหลังจากการรีเซตจะเป็นการปรับไปทีละนิดๆ แล้ว ecu ก็จะตรวจสอบรอบเครื่อง ปรับรอบแรก
ยังไม่ได้ก็ปรับรอบสอง แล้วก็เช็ครอบเครื่องใหม่ทำเช่นนี้วนไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งถึง set point  ตำแหน่ง set point นี้จะ
อ้างอิงจากตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อโดยอ่านค่ามาจาก TPS SENSOR นั่นเอง  ยกตัวอย่างสมมุติให้การชดเชยรอบเครื่องต้อง
หดแกนลง 1 มม เพื่อให้อากาศเข้าสู่ไอดีมากขึ้น  ถ้าเป็นค่ามาตรฐานหลังจากการ reset การหดแกนนี้จะทำไปทีละนิดๆ
สมมุติว่า ครั้งละ 0.1 มิล ECU จะต้องทำวนทั้งหมด 10 ครั้ง  แต่ถ้าเราให้ ECU เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อาจใช้รถปกติสักวันนึง
หรือติดเครื่องแล้วเปิดแอร์ รอรอบเครื่องนิ่ง แล้วก็ปิดแอร์ รอรอบเครื่องนิ่ง ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ  หลายสิบครั้ง ตอนนี้ละครับ
ECU จะรู้แล้วว่าต้องปรับเสต็ปยังไง การตอบสนองของตัวมอเตอร์ก็จะเร็วขึ้น   ISC เสียซ่อมได้หรือไม่ ?
  ตัวสเต็ปมอเตอร์นี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ซ่อมครับ ต้องเข้าใจก่อนว่า มอเตอร์ก็คือมอเตอร์โครงสร้างเป็นขดลวด ถ้ามันตัว
ใหญ่เท่ากับมอเตอร์พัดลมและถอดออกมาได้ก็เอาออกมาพันคอยล์ใหม่ได้ครับ แต่ ISC  มันตัวเล็กนิดเดียวแถมแกะไม่ได้
หมดสิทธิที่จะมาพันใหม่ (กรณีขดลวดชำรุด) แล้วถ้าหัววาล์วมันสึกจะเปลี่ยนแค่หัวได้ไหม  อันนี้ก็ต้องทำใจครับเพราะ
ไม่มีขายแยกมอเตอร์ไม่เสียแต่หัววาวล์สึกก็ต้องเปลี่ยนทั้งตัว จะรู้ได้ไงว่า ISC เสีย?
   ของอย่างนี้อาการมันฟ้องครับ รอบเดินเบาจะไม่นิ่งครับ  อาการที่ชัดเจนที่สุดกรณีมอเตอร์ชำรุด คือ เปิดแอร์  เข้าเกียร์ D
เหยียบเบรคอันนี้ภาระโหลดหนักสุด ถ้า ISC เสีย รอบตกเยอะเลยครับ  แต่ถ้าหัววาวล์สึกแต่มอเตอร์ไม่เสียมันจะกลับกันครับ
รอบมันจะสูงตลอด ยิ่งตอนแอร์ตัด หรือ ปลดเกียร์ D มา N รอบพุ่งเลยครับ อาการนี้เป็นไปได้ สองกรณี คือ หัววาวล์สึกกับ
คลายสกรูอากาศมากเกิน ลองดูที่สกรูอากาศถ้าคลายออกไม่มากแล้วมีอาการแบบนี้ก็หัววาวล์สึกครับ แล้วถ้าเสียจะตรวจสอบได้ยังไง?
   เบื้องต้นก็คงต้องถอดออกมาดูสภาพและตรวจสอบความต้านทานของแต่ละขาตามรายละเอียดที่ผมระบุไว้ แต่ถ้าใช้ชัวร์
100% ต้องทำตามคลิปทดสอบผมครับ อันนี้รู้เลยว่าเสียไม่เสีย ไม่ต้องสงสัย ตามคลิปเป็นการขับ Step มอเตอร์เข้าออก
แบบ FULL STEP ทำทั้งหมด 50 ครั้ง ขับเข้า 25 ครั้ง ขับออก 25 ครั้ง  แต่ใน ECU น่าจะขับแบบ HALF STEP เพราะ
มันจะละเอียดกว่านี้  ถ้านำมาขับเสต็ปตามนี้แล้วมอเตอร์ไม่มีการติดขัดก็ใช้ได้ชัวร์ ความนี้ก็ไปแก้ปัญหาที่จุดอื่นว่าทำไมรอบ
ไม่นิ่ง   การวัดความต้านทานเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยืนยันได้ว่ามอเตอร์ใช้งานได้ เคยเจอมาแล้วครับ ความต้านทาน
ปกติหมดแต่เอามาขับดูมอเตอร์ไม่หมุน
   เปลี่ยน ISC ต้องเข้าศูนย์เพื่อปรับ STEP จริงหรือ?
     จะเข้าไปเสียตังค์ก็ได้ครับไม่ต่างกัน  ถ้าไม่เข้าก็ทำตามวิธีข้างต้น รอบเดินเบาจะผิดเพี้ยนในช่วงแรกที่ทำการเปลี่ยน ISC
หรืออาจจะปกติเลยก็เคยขึ้นอยู่กับ การขับ STEP ก่อนหน้าที่ ECU สั่งออกมา
ทำไม ISC ถึงมีราคาแตกต่างกันมาก?
     เป็นเรื่องธรรมดาที่ของ แท้ย่อมแพงกว่าของเทียม ส่วนของเทียมก็มีหลายราคาอีก อันนี้ก็แล้วแต่คุณภาพครับ ผู้ซื้อต้องเป็น
ผู้พิจารณาเองครับ  ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย รูปแบบการรับประกัน การเครมสินค้า มีปริมาณ
สินค้ามากน้อยเพียงพอหรือไม่หากมีปัญหามีสินค้าพร้อมเปลี่ยนให้เลยไหม เพิ่มเติมเรื่องแวคคั่มครับ จริงหรือติดแวคคั่มช่วยได้?
   ช่วยได้ครับ  ต้องหาตัวที่สามารถปรับตั้งอากาศได้ครับ   แวคคั่มจะสามารถชดเชยได้เฉพาะจุดที่เราพ่วงไฟมาเพื่อชดเชย
เช่น ต้องการชดเชยแอร์ ก็พ่วงไฟที่จ่ายไปยัง ครัชคอมมาเวลาคอมแอร์ทำงาน วาวล์ก็จะเปิด   แต่การพ่วงแค่แอร์อย่างเดียวมันไม่จบ
ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ต้องต่อแวคคั่มเกียร์อีกตัว เกียร์ก็ยังไม่จบ เพราะการชดเชยของรอบเดินเบา การหมุนพวงมาลัย เปิดไฟหน้า ก็ยังชดเชย
จะต้องพ่วงกี่ตัวละครับ ถึงจะจบ  แต่ถ้าไม่คิดมากก็พ่วงแค่สองตัว สำหรับรถเกียร์ออโต้ คือ แอร์ กับเกียร์ แต่รอบเดินเบาอาจไม่เนียนเท่า
กับการใช้ ISC