เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิในดิน (Rapitest Soil Thermometer1618)

ดูสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://maitakdad.tarad.com/

ความสำคัญของอุณหภูมิของดิน

อุณหภูมิของดินมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช (Effect of temperature to plant growth) พืชทุกชนิดสามารถเติบโตได้ต่อเมื่ออุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อยู่ในช่วงหนึ่งขึ้นกับชนิดของพืช ถ้าอุณหภูมิไม่อยู่ในช่วงนั้น ๆ การเจริญเติบโตของพืชจะหยุดชะงัก ฉะนั้น ถ้าจำแนกพืชโดยพิจารณาความต้องการอุณหภูมินั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. พืชที่เจริญเติบโตได้ในที่อุณหภูมิต่ำ (Cool season crops) หมายถึง พืชที่เจริญเติบโตได้ในที่ ๆ มีอุณหภูมิต่ำกว่า 40°F ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวไรน์ ข้าวโอ๊ด และข้าวบาเลย์ เป็นต้น
2. พืชที่เจริญเติบโตได้ในที่อุณหภูมิสูง (Warm season crops) หมายถึง พืชที่เจริญเติบโตได้ในที่อุณหภูมิสูงกว่า 50°F ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าว ฝ้าย ถั่วเหลือง และหญ้าเลี้ยงสัตว์บางชนิด

อุณหภูมินอกจากมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว อุณหภูมิของดินยังมีอิทธิพลต่อการงอกของเมล็ดพืช และการแผ่กระจายของรากพืชด้วย เช่น ข้าวโพด งอกได้เมื่ออุณหภูมิของดินประมาณ 7-10° C (45-50° F) และเจริญเติบโตได้ดีถ้าอุณหภูมิเหมาะสม (Optimum temperature) คือ 25° C แต่ถ้าเป็นมันเทศ เจริญเติบโตได้ในอุณหภูมิประมาณ 16-21° C (60-70° F)

ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิของดินกับการเจริญเติบโตของพืช แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
1. ช่วงที่เหมาะสม (Optimum range) ได้แก่ ช่วงอุณหภูมิซึ่งพืชสามารถเจริญและให้ผลผลิตสูงสุด
2. ช่วงที่พืชเจริญเติบโตได้ (Growth range) ได้แก่ช่วงอุณหภูมิที่พืชสามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งรวมช่วงที่เหมาะสมด้วย
3. อุณหภูมิที่กำหนดการอยู่รอด (Survival limits) ได้แก่อุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุดที่พืชสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยยังไม่ตาย ค่าอุณหภูมิที่แท้จริงขึ้นอยู่กับระยะของการเจริญเติบโตและอาจเปลี่ยนไปได้ว่าพืชมีช่วงการเติบโตอยู่ในระยะใด

อุณหภูมิที่มีผลต่อกิจกรรมต่าง ๆ ของจุลินทรีย์ในดิน (Microbial activities)

กิจกรรมหลายกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดินที่ดำเนินไปได้ต้องอาศัยอิทธิพลของอุหภูมิดิน เช่น กระบวนการออกซิเดชันของแอมโมเนียมไปเป็นไนเตรต กระบวนการเกิดได้อย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิดินอยู่ในช่วง 27-32 °C (80-90°F) แต่ถ้าอุณหภูมิดินลดลงถึง 10° C (50 °F) กิจกรรมนี้ลดลงทำให้เกษตรกรได้นำวิธีการนี้มาฉีดพ่นปุ๋ยแอมโมเนียลงในดินในช่วงอุณหภูมิต่ำ ซึ่งแอมโมเนียจะไม่ถูกออกซิไดส์เป็นไนเตรตอย่างรวดเร็วและเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ไนเตรตก็ค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืช และเป็นการป้องกันการชะล้างไนเตรตเมื่อมีน้ำไหล่บ่าได้ด้วย นอกจากนั้นการที่ดินมีอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้ลดการระบาดของโรคพืช ดังนั้นในบางครั้งเกษตรกรจึงใช้พลาสติกคลุมดิน เพื่อให้อุณหภูมิสูงขึ้น 50°C (122°F.) นอกจากป้องกันโรคระบาดของเชื้อราแล้ว ยังป้องกันกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืชวิธีหนึ่งด้วย กระบวนการนี้เรียก “Soil solarization” ซึ่งมักใช้กับพืชมีราคาแพง

ช่วงอุณหภูมิดินที่จุลินทรีย์สามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชได้แก่ 0-40°C และเป็นไปอย่างรวดเร็วในช่วง 10-40°C อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด สำหรับประกอบกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินได้แก่ 25-30°C

คุณสมบัติเทอร์โมมิเตอร์ Rapitest 1618
- อ่านค่าเป็นองศาเซลเซียส และฟาเรนไฮต์
- ปลอกมิเตอร์มีความทนทาน ผลิตจากอลูมิเนียม
- มีความแม่นยำกว่า เพราะเป็นเทอร์โมมิเตอร์ที่ผลิตเพื่อการวัดอุณหภูมิดินโดยเฉพาะ
- เหมาะกับการวัดอุณหภูมิดินทั่วไป การเพาะต้นกล้า การหมักปุ๋ย ฯลฯ

สนใจดูข้อมูล หรือสินค้าอื่น ๆ เช่น
ในดิน - มิเตอร์วัดความชื้น กรด-ด่าง(PH) ความสมบูรณ์ของดิน
ในน้ำ - มิเตอร์วัดค่า PPM / EC / CF / TDS / PH / ORP / Hardness / Salinity / Chlorine
ในอากาศ - มิเตอร์วัดค่าความชื้น, อุณหภูมิในอากาศ, Dew Point
มิเตอร์อื่น ๆ - มิเตอร์วัดความชื้นในเมล็ดพืชผลทางการเกษตร, มิเตอร์วัดปริมาณน้ำตาล แอลกอฮอล์ น้ำผึ้ง, มิเตอร์วัดความชื้นในวัสดุ, มิเตอร์วัดระยะทาง, มิเตอร์วัดค่าแสงสว่าง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://maitakdad.tarad.com/
E-mail : [email protected]
โทร : 0-2726-6787, 08-9450-7795, 08-3714-0585